จากกรณีที่ประเทศไทยได้ปลดล็อคกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด เมื่อวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดกระแสการใช้กัญชา การจำหน่ายต้นกล้าและผลิตภัณฑ์กัญชาภายในประเทศอย่างคึกคัก
ต่อมาได้มีกระแสข่าวนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียนำน้ำดื่มกัญชา และผลิตภัณฑ์กัญชา ที่มีจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อนำไปประเทศมาเลเซียโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจจับรวมดำเนินคดีด้วยกันปรับเป็นจำนวนเงินที่สูงมากคิดเป็นเงินไทยกว่า 80,000 บาทไทย ส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิดและการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และส่งผลต่อบรรยากาศการท่องเที่ยว ทั้ง2ประเทศ
ล่าสุดที่ด่านปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา นายเชาว์ เฉลิมเกียรติ นายด่านปาดังเบซาร์ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากร เร่วทำความเข้าใจกับผู้ที่เดินทางเข้าออกระหว่างประเทศไทยและประเทศมาเลเซียโดยการจัดทำเอกสาร เป็นภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ประชาสัมพันธ์ รวมทั้งนำผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มน้ำกัญชาตัวอย่าง แสดงให้นักท่องเที่ยวและคนไทยได้ทราบ ก่อนที่จะเดินทางเข้าประเทศมาเชีย โดยกำชับว่าการนำตัน ใบกัญชาหรือเมล็ดกัญชา รวมทั้งเครื่องดื่มและผลิตภัณฑ์ต่างๆที่ประกอบด้วยกัญชาหรือสกัดจากกัญชา ห้ามนำติดตัว หรือซุกซ่อนไว้ในรถอย่างเด็ดขาด รวมทั้งการเสพกัญชาก่อนบริโภคควรคำนึงถึงระยะเวลาที่สารกัญชาออกฤทธิ์ก่อนที่จะเดินทางกลับไปประเทศมาเลเซีย อาจจะมีเจ้าหน้าที่ตั้งด่านตรวจจับ
ทั้งนี้ ที่ด่านปาดังเบซาร์ยังไม่มีพบการกระทำผิดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์กัญชาแต่อย่างใด เป็นการป้องกันปัญหาก่อนที่จะเกิด จึงได้รณรงค์ให้ความรู้ดังกล่าว สร้างความเข้าใจอันดีระหว่างนักท่องเที่ยวและประชาชนคนไทย
ซัมซูดิน เจ๊ะแดร์ รองหัวหน้า
ศูนย์ข่าวหนังสือพิมพ์ทันใจนิวส์จังหวัดสงขลา
สนับสนุนโดย