30 เมษายน 2565

หนังสือพิมพ์ตาทันนิวส์ออนไลน์

ส่งมอบพื้นที่ลานโพธิ์บ้านหัวนา
เวลา 11.00 น.วันที่ 29 เมษายน 65 ที่ลนาโพธิ์ ชุมชนบ้านหัวนา อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
 นายอติชาติ ชัยศรี รองนายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน นายสมภพ คงรอด  สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดประจวบฯ นายกิตติ เฟื่องฟู เลขานุการนายกฯ ร่วมเป็นประธานรับมอบการพัฒนาพื้นที่ลานโพธิ์ชุมชนบ้านหัวนา
จาก นายศุรอัฐ ณรงค์ฤทธิ์  กรรมการ ผจก. บริษัท HI-COAT (THAILAND) จำกัด
ที่ได้พัฒนาปรับปรุงลานดังกล่าวโดยการ ทาสีรั้ว ผนังรั้ว ศาลเจ้า ทำประตูรั้ว ติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างจากแสงอาทิตย์ รวมทั้งนำอาหารกลางวันเลี้ยงชาวชุมชน
นายศุรอัฐฯ กล่าวว่า ตนเองในฐานะบริษัทแรงงานที่อยู่ในชุมชนบ้านหัวหิน ทุกปีก็จะจัดวันเด็กให้ชุมชน มา 2 มีปัญหาไม่ได้จัดในปีนี้เป็นวัน"แรงงาน" จึงให้พนักงานมาทาสีรั้ว ทำรั้ว ติดตั้งไฟฟ้าแสงอาทิตย์ เลี้ยงอาหาร
พร้อมกับส่งมอบกิจกรรมทางด้านวันแรงงานให้กับเทศบาลเมืองหัวหิน และ สวัสดิการฯแรแรงงานจังหวัดประจวบฯ เพื่อส่งมอบให้กับชาวชุมชนต่อไป.
สนับสนุนโดย
รายงานข่าว

29 เมษายน 2565

หนังสือพิมพ์ตาทันนิวส์ออนไลน์

เลขาฯ ศอ.บต. นำนักท่องเที่ยวเหินฟ้า landing สนามบินเบตงภายใต้แคมเปญ เบตง บินตรง เบตง หรอยแรง แหล่งใต้ สไตล์นกแอร์ 
ยะลา - เลขาธิการ ศอ.บต. ร่วม ไฟล์บิน นำนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศไทย ภายใต้แคมเปญ "เบตง บินตรง เบตง หรอยแรง แหล่งใต้ สไตล์นกแอร์” 3 วัน 2 คืน นำร่องเที่ยวบินเช่าเหมาลำเชิงพาณิชย์รอบแรกในเที่ยวบินที่ DD - 622 ดอนเมือง – เบตง เพื่อส่งเสริมให้เกิดคุณค่ากลับคืนสู่ท้องถิ่นโดยใช้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือในการพัฒนาและส่งเสริมวิถีความเป็นไทย ให้ยั่งยืนสืบไป









วันนี้ (29 เม.ย. 65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เที่ยวบินของสายการบินนกแอร์ กลับมาบินอีกครั้งอย่างเป็นทางการ สู่ท่าอากาศยานนานาชาติเบตง จ.ยะลา กลายเป็นเที่ยวบินเที่ยวแรก ที่บินมาถึงเวลา 11.45 น. ที่ผ่านมา โดยเป็นเที่ยวบิน DD622 ดอนเมือง - เบตง หลังจากที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) กับบริษัทสายการบินนกแอร์ จากัด (มหาชน) ร่วมกันจัดกิจกรรมแคมเปญ เบตง บินตรง หรอยแรง แหลงใต้ สไตล์นกแอร์ 3 วัน 2 คืน นำร่องเที่ยวบินเช่าเหมาลำเชิงพานิชย์รอบแรก ซึ่งเริ่มเปิดให้บริการอีกครั้งในวันนี้ ในเส้นทาง กรุงเทพฯ – เบตง ที่กลับมาให้บริการ 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ คือวันอังคาร ศุกร์ และอาทิตย์ ผ่านเส้นทางขาไป DD622 ดอนเมือง - เบตง ออกเดินทางจาก กรุงเทพมหานคร เวลา 10.00 น. ถึงสนามบินเบตง เวลา 11.45 น. และเที่ยวบินขากลับ เส้นทางเบตง สู่ดอนเมือง กรุงเทพมหานคร DD623 ออกเดินทางจาก สนามบินเบตง เวลา 12.15 น. และถึงสนามบินดอนเมือง เวลา 14.00 น.
สำหรับเที่ยวบินนี้ มี พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. เป็นผู้นำนักท่องเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯ- เบตง ที่มาพร้อมผู้โดยสารเที่ยวแรก เต็มทั้ง 86 ที่นั่ง ซึ่งจะเป็นการจัดการท่องเที่ยวในพื้นที่ เหินฟ้า landing สนามบินเบตง นำนักท่องเที่ยวลงมา อ.เบตง สัมผัสทะเลหมอกชมวิว 360 องศาบนสกายวอล์ก ลิ้มลองอาหารอร่อยถิ่นเบตง แช่น้ำร้อนชมดอกไม้ ลอดอุโมงค์ พื้นป่าอะเมเซียนใต้สุดแดนสยาม โดยเชื่อว่า หลังจากสนามบินเปิด จะทำให้พลิกฟื้นเมืองเศรษฐกิจชายแดนใต้
ขณะที่เที่ยวบินขากลับ เบตง-กรุงเทพฯ เที่ยวบิน DD623 ที่ออกเดินทางจากสนามบินเบตง เวลา 12.15 น. ซึ่งเป็นเที่ยวบินแรก ก็มีผู้โดยสารมากกว่า 80 % ทำให้บรรยากาศภายในอาคารรับรองผู้โดยสาร ท่าอากาศยานนานาชาติเบตง คึกคัก และเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่เป็นผู้โดยสารที่รอขึ้นเครื่องกลับจำนวนมาก อย่าง นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯที่เดินทางมาท่องเที่ยว อ.เบตง รู้สึกประทับใจเพราะถูกใจกับอากาศที่เบตง อาหารอร่อย ผู้คนน่ารัก และจะกลับมาเที่ยวอีก
ขณะที่ ดร.คฑา ชินบัญชร  บอกว่า สถานที่ท่องเที่ยวใน อ.เบตง ที่เป็นไฮไลต์ ทั้งจุดชมวิวทะเลหมอกอัยเยอร์เวง เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกยอดฮิต ของเบตง อยู่ในพื้นที่ของเขาไมโครเวฟ มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 2,038 เมตร เป็นทะเลหมอกที่ใหญ่และสวยงาม ในช่วงเวลาเช้าจุดชมวิวแหง่นี้จะกลายเป็นสวรรค์บนดิน เปิดให้นักท่องเที่ยวเต็มอิ่มกับทะเลหมอก สัมผัสอากาศอันบริสุทธิ์และทัศนียภาพที่สวยงามของยอดเขาไมโครเวฟ  นอกจากนี้ยังมี สวนหมื่นบุปผา หรือ สวนไม้ดอกเมืองหนาวเบตง เป็นสวนดอกไม้เมืองหนาวแห่งเดียวใน ภาคใต้ เนื่องจากเบตงมีสภาพอากาศที่เหมาะสม ด้วยสภาพภูมิประเทศที่อยู่สูง จากระดับทะเลปานกลางราว 800 เมตร มีอากาศเย็นสบายตลอดปี และยังมีอุโมงค์ปิยะมิตร ในอดีตเคยเป็นฐานที่มั่นของโจรจีนคอมมิวนิสต์มาลายา โดยอุโมงค์นี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นหลุมหลบภัยจากการโรมตีของระเบิด และการโจมตีทางอากาศ ตัวอุโมงค์มีความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร ภายในอุโมงค์มีห้องพัก ห้องพยาบาล ห้องประชุม และห้องอาหารสามารถจุคนได้ 300-400 คน ชมต้นไทรใหญ่พันปี นับเป็นหนึ่งในต้นไม้ยักษ์ที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดทางภาคใต้ของไทย   ขณะเดียวกันยังมีจุดถ่ายรูป ที่เป็นแลนด์มาร์กใหม่ของเบตง เป็นผลงานที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ประทับใจ และได้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ภาพที่เขียนส่วนใหญ่ จะเป็นภาพที่บอกเล่าเรื่องราววิถีชีวิต ความหลากหลายทางวัฒนธรรมของชาวเบตง รวมไปถึงสัญลักษณ์ต่างๆ ที่มีอยู่จริงใน อ.เบตง เช่น ตู้ไปรษณีย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งภาพถูกวาดทั้งหมด 11 จุด ทั้งบนผนังกําแพง ใต้สะพาน และตัวอาคารหลายจุดรอบเมืองเบตง รวมถึงตู้ไปรษณีย์เบตงใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ที่บริเวณสี่แยกหอนาฬิกา ใจกลางเมืองเบตง สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2467 ตั้งแต่ก่อนสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ลักษณะ เป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก มีเส้นวงรอบของตู้ประมาณ 140 เซนติเมตร มีความสูง 290 เซนติเมตร ด้านบนของตู้ได้บรรจุลําโพงไว้ข้างใน และเจาะรูกลมๆไว้รอบๆ เพื่อกระจายเสียงรายงานข่าวสารของทางราชการ มีอายุรวม 86 ปี
ขณะที่นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เผยว่า ในต้นเดือนหน้า วันที่ 6-8 พ.ค.จะมีการงานวิ่งเทรลระดับโลก ยิ่งจะทำให้พื้นที่ อ.เบตง คึกคักขึ้น ซึ่งคาดว่าทั้งภาคการท่องเที่ยวและการจัดงานวิ่งเทรลในสัปดาห์นั้น จะช่วยให้เศรษฐกิจ อ.เบตง จะมีเงินสะพัดกว่า 100 ล้านบาท อีกด้วย
สัมภาษณ์ นักท่องเที่ยวชาวกรุงเทพฯ....สัมภาษณ์ ดร.คฑา ชินบัญชร พรีเซนเตอร์ เที่ยวไทยรับพลังบวก ท้ายคลิป
ข่าว..เจษฎา สิริโยทัย อ.เบตง จ.ยะลา  โทร.064-126-5593 – 080-036-2786



หนังสือพิมพ์ตาทันนิวส์ออนไลน์

รัสเซียพยายามแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีโคลอมเบียหรือไม่?

โบโกตา/โคลอมเบีย-ปัญหาการแทรกแซงของรัสเซียในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นของโคลอมเบียได้กลายเป็นเรื่องน่าตกใจสำหรับประชาชนและนักการเมืองชาวโคลอมเบียจำนวนมาก 






รายงานระบุว่า รัสเซียพยายามฉวยโอกาสปรับปรุงความสัมพันธ์กับโคลอมเบีย ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของสหรัฐฯ เพื่อเข้าไปมีส่วนร่วมในละตินอเมริกา เนื่องจากพรรค Pacto Historico คาดว่าจะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีโคลอมเบียในวันที่ 29 พฤษภาคม วุฒิสมาชิกโคลอมเบีย ปาโลมา วาเลนเซีย กล่าวว่า ข่าวกรองโคลอมเบียพบว่าบางภาคส่วนของระบอบการปกครองของรัสเซียอาจแทรกแซงการเลือกตั้งของประเทศ “หน่วยข่าวกรองโคลอมเบียค้นพบเกี่ยวกับพลเมืองรัสเซียที่มีโครงการที่จะเข้าไปแทรกแซงการเลือกตั้ง ทำให้เกิดความกังวล เพราะหนึ่งในหลักการของสิทธิระหว่างประเทศก็คือการไม่มีส่วนร่วมในประเด็นภายใน แม้แต่น้อยในประเด็นการเลือกตั้งในประเทศและดูเหมือนว่า มีการปรากฏตัวที่แข็งแกร่งและความตั้งใจของบางภาคส่วนของระบอบการปกครองของรัสเซียที่จะเข้าไปแทรกแซงในการเลือกตั้งของโคลอมเบีย”

สำหรับบทบาทของเขา Jairo Libreros ศาสตราจารย์และนักวิเคราะห์ทางการเมืองของมหาวิทยาลัย Externado กล่าวว่ารัสเซียได้เข้าแทรกแซงในการเลือกตั้งของสหรัฐฯ และการสำรวจ BREXIT ในปี 2016 อย่างไรก็ตาม เขาเสริมว่าไม่มีความสนใจที่ชัดเจนในรัสเซียในโคลัมเบีย “ในระดับสากลชัดเจนว่า รัสเซียเข้าแทรกแซงในการเลือกตั้งสหรัฐในปี 2559 และในการสำรวจ BREXIT ในปี 2559 ในสหราชอาณาจักรด้วย ฉันคิดว่าพวกเขามีความสามารถทั้งหมดที่จะทำเช่นนั้น และอาจมีความสนใจ สิ่งที่เราคาดหวังในโคลัมเบียคือ ว่าเราสามารถตรวจพบการกระทำประเภทนี้ที่พิสูจน์แล้วว่าใหม่และยากต่อการจัดการทางเทคโนโลยี แต่ฉันไม่เห็นว่าทำไมจะมีผลประโยชน์ที่ชัดเจนของรัฐรัสเซียในโคลัมเบีย"



ที่มา A24 News Agency
https://youtu.be/kXYxGaF9r5Y

หนังสือพิมพ์ตาทันนิวส์ออนไลน์

รัฐบาลปฏิเสธการจับกุมนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม

พนมเปญ กัมพูชา – หลังจากมีการประท้วงต่อต้านการจัดตั้งโครงการเขื่อนจีนมูลค่า 400 ล้านดอลลาร์ในภูมิภาค Chhay Areng ในปี 2558 Alejandro Gonzalez-Davidson ถูกเนรเทศออกจากกัมพูชา
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้นักเคลื่อนไหวชาวเขมรรุ่นใหม่ลุกขึ้นเรียกร้องต่อต้านการสร้างเขื่อน ตลอดจนส่งเสริมสาเหตุด้านสิ่งแวดล้อมอื่นๆ






พาย สีพรรณ โฆษกรัฐบาล อธิบายว่าทางการได้จับกุมและเนรเทศกอนซาเลซ-เดวิดสัน และไม่ใช่คนงานในองค์กรพัฒนาเอกชน "ธรรมชาติ" ซึ่งหักล้างข้อกล่าวหาเรื่องการปราบปรามนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม เขากล่าวว่าทางการจับกุมเฉพาะบุคคลที่จะดำเนินการภายใต้ชื่อนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม แต่ในความเป็นจริง พวกเขาคงจะต่อต้านพระมหากษัตริย์ของประเทศ

ลี จันดาราวุธ ซึ่งเป็นอดีตนักเคลื่อนไหวด้านธรรมชาติ กล่าวว่า เขาถูกตั้งข้อหาทรยศต่อข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูล และเสริมว่าการสอบปากคำนั้น “คลุมเครือ”
“เราต่อต้านการทุจริต และนั่นคือสิ่งที่จะทำให้ผู้มีอำนาจบางคนไม่พอใจ เสรีภาพของเราถูกจำกัด และเราถูกข่มเหง เราถูกขังอยู่ในคุก” เขากล่าว
แม้ว่ารัฐบาลจะยกเลิกโครงการเขื่อน แต่นักวิเคราะห์ Em Sovannara กล่าวว่าการตัดสินใจเกิดขึ้นเนื่องจากโครงการนี้ดูเหมือนจะไร้ประโยชน์ เนื่องจากไฟฟ้าที่สร้างจากเขื่อนไม่ครอบคลุมความต้องการตลอดหนึ่งปีด้วยซ้ำ ไม่ใช่เพราะรัฐบาลให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม “เราจะได้พลังงานเฉพาะในช่วงฤดูฝน” เขากล่าว



ที่มา A24 News Agency
https://youtu.be/MXCzSe_oCu0

28 เมษายน 2565

หนังสือพิมพ์ตาทันนิวส์ออนไลน์

นักวิ่งเทรลนับพัน เตรียมเปิดผืนป่าอเมซอลแห่งอาเซียนเบตง จ ยะลา สู่สายตาชาวโลก ผ่าน วิ่งเทรล 2 วัน 1 คืน
ยะลา - นักวิ่งเทรลเกือบพัน เตรียมเปิดผืนป่า “อเมซอลแห่งอาเซียน” เบตง จ.ยะลา สู่สายตาชาวโลก ผ่าน วิ่งเทรล 2 วัน 1 คืน ในกิจกรรม Amazean Jungle Trail 
วันนี้ (27 เมษายน 2565) ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เนรมิตห้องประชุมศูนย์ราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ อ.เมือง จ.ยะลา อย่างยิ่งใหญ่ เพื่อจัดงานแถลงข่าวกิจกรรม Amazean Jungle Trail ที่มีกำหนดจัดขึ้น ณ อ.เบตง จ.ยะลา ในวันที่ 6-8 พ.ค. นี้ โดยมีนายสิรภพ ดวงสอด ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล รองผู้ว่าราชการ จ.ยะลา และนายทนุเกียรติ จันทร์ชุม รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ร่วมแถลงข่าวการจัดกิจกรรมวิ่งเทรลในครั้งนี้ 






ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า กิจกรรม Amazean Jungle Trail เป็นกิจกรรมที่รัฐบาลต้องการให้ประเทศไทยมีสนามวิ่งเทรลในระดับโลก อ.เบตง จ.ยะลา เป็นอีกสนามที่ต้องการยกระดับสู่ UTMB World Series เนื่องจากเป็นเมืองที่มีสีสันสวยงาม ทั้งประเพณี วัฒนธรรม และธรรมชาติที่น่าประทับใจ ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้จัดเเคมเปญต้อนรับกิจกรรมนี้ โดยการเปิดเที่ยวบิน ทั้งเที่ยวบินปกติ และพิเศษ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางเข้าร่วมแข่งขันและการท่องเที่ยว เป็นระยะเวลา 3 เดือน จึงขอเชิญชวนร่วมลงทะเบียนสมัครการแข่งขันได้อย่างต่อเนื่อง จนถึงวันที่ 30 เม.ย.นี้ ทั้งการวิ่งเทรล 100 กิโลฯ วิ่งเบตงระยะทาง 50 กิโลฯ และ 25 กิโลฯ และวิ่งชมเมืองระยะทาง 5 กิโลฯ โดยขณะนี้ มีนักวิ่งเทรลสมัครเข้าร่วมการแข่งขัน จำนวน 825 คน
ด้านเลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า จากนโยบายของรัฐบาล ในการยกระดับเมืองตนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายใต้เมืองต้นแบบ สามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน สู่การจัดงาน Amazean Jungle Trail ที่ยิ่งใหญ่ในวันนี้ และมีกำหนดวิ่งในวันที่ 6 พ.ค.นั้น ศอ.บต. หวังเป็นอย่างยิ่งว่า นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ จะได้ชมความงดงามของ อ.เบตง จ.ยะลา และจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในทุกมิติ ความสวยงามที่อยู่ท่ามกลางความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ผ่านนักกีฬาและผู้เข้าสมัครการแข่งขันวิ่งเทรล และวิ่งระยะสั้นและระยะยาว เพื่อชมบรรยากาศของเมืองเบตงทั้ง กลางวันและกลางคืน จะสามารถนำเสนอศิลปวัฒนธรรม อาหารที่เป็นอัตลักษณ์ สิ่งที่เป็น Soft Power ที่คณะกรรมการจัดงานต้องการนำเสนอสู่สายตาชาวโลก อย่างไรก็ตาม ประชาชนชายแดนใต้มีความพร้อมอย่างยิ่งในการมาเยือนของทุกคนในกิจกรรมครั้งนี้ และตลอดไป
รองผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้ ถือเป็นโจทย์สำคัญในการจัดการแข่งขันให้ได้มาตรฐาน เพื่อให้ผ่านการรับรองของ UTMB International เพื่อก้าวเป็นสนาม World Series สนามที่ 2 ของประเทศ คาดว่า ไม่ยากเกินความสามารถของประเทศไทยแน่นอน

ทั้งนี้ สำหรับการจัดการแข่งขันวิ่งเทรล ณ อ.เบตง จ.ยะลา จะมีการปล่อยตัวนักวิ่ง ที่อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ ซึ่งการวิ่งระยะสั้นจะถึงเส้นชัยบริเวณ สนามกีฬากลางเทศบาลเมืองเบตง นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการจัดกิจกรรม Batong Fastival กิจกรรมแข่งขันยิงธนูโบราณ เทศกาลอาหารและของดีเมืองเบตง กิจกรรม วิ่ง เที่ยว ดื่ม กิน และเช็ดอิน @เบตง ทั้งนี้ผู้สนใจสามารถสมัครเข้าแข่งขันได้อย่างต่อเนื่อง ทางเว็บไซต์ www.runningconnect.com หรือ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมทางเฟซบุ๊ค AmazeanTrail
ข่าว..เจษฎา สิริโยทัย อ.เบตง จ.ยะลา  โทร.064-126-5593 – 080-036-2786

หนังสือพิมพ์ตาทันนิวส์ออนไลน์

อุตสาหกรรมจังหวัดเชียงราย จัดงานสัมมนา ภายใต้โครงการการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Center)  ประจำปี 2565
     วันที่ 27 เมษายน 2565 นายพินิจ แก้วจิตคงทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานเปิดงานสัมมนาภายใต้โครงการการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Center)  ประจำปี 2565 เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้แนวทางการพัฒนาสู่การเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศระดับชุมชน 
โดยนางกฤษนันท์ ทะวิชัย อุตสาหกรรมจังหวัดเชียงราย กล่าวรายงานต่อประธานในพิธี พร้อมด้วยหน่วยงานราชการ ภาคเอกชน ภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมรับฟังการสัมมนาในครั้งนี้ ณ ห้องประชุมนารายณ์ ชั้น 2 สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงราย

     การสัมมนาเชิงปฏิบัติการฯ ในครั้งนี้เป็นแนวทางการพัฒนาสู่การเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ เพื่อนำมาเป็นแนวทางในการขับเคลื่อน โครงการการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศของจังหวัดเชียงราย ในพื้นที่ตำบลเวียงชัย ตำบลผางาม อำเภอเวียงชัย จังหวัดเชียงราย เพื่อให้เกิดการพัฒนาสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน สถานประกอบการในพื้นที่ ให้สามารถอยู่ร่วมกันได้ นำไปสู่การเป็นเมืองน่าอยู่ คู่อุตสาหกรรม เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ หมายถึง เมืองที่มีการเจริญเติบโต โดยมีอุตสาหกรรมเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลักมีความสมดุลกับการพัฒนาทางสังคม ความเป็นอยู่ของประชาชน โดยมีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด ตลอดจนการพัฒนาอย่างยั่งยืน คุณลักษณะของเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ประกอบไปด้วย 5 มิติ ได้แก่ 1. มิติกายภาพ 2. มิติเศรษฐกิจ 3.มิติสิ่งแวดล้อม 4. มิติสังคม  5. มิติการบริหาร โดยมี นายอำนาจ เถาเล็ก ผู้อำนวยการกลุ่มยุทธศาสตร์ การพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศกองพัฒนาอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ กรมโรงงานอุตสาหกรรม เป็นผู้บรรยายการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ เครื่องมือหลักในการอยู่ร่วมกันระหว่างชุมชนและอุตสาหกรรม สู่ “เมืองน่าอยู่คู่อุตสาหกรรม” ในครั้งนี้

      ทั้งนี้รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า อุตสาหกรรมเป็นตัวหลักของการขับเคลื่อน พร้อมทั้งการเกษตรกรเป็นอาชีพที่อยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนาน ดังนั้น การที่จะบรรลุเป้าหมาย และวัตถุประสงค์อย่างที่ตั้งใจ ซึ่งการที่นำไปสู่การเป็นเมืองน่าอยู่คู่อุตสาหกรรม ทุกภาคส่วนจะต้อง ร่วมมือกันอย่างเต็มที่
สนับสนุนโดย
รายงานข่าว

ข่าวยอดนิยม สังคมสนใจ

หนังสือพิมพ์ตาทันนิวส์ออนไลน์

ข่าวภูมิภาค เชิญเที่ยว ช๊อป ชิม ริมบึงสามพัน(ถนนคนเดิน) ...