07 เมษายน 2565

ตาทันนิวส์ออนไลน์ TT.TV.Online

ประเทศไทย - สินค้าจีนล้นทะลัก: ความวิตกของเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียม

ชาวสวนผู้ปลูกกระเทียมในไทยมากกว่า 25,000 คน ต้องการหยุดการนำเข้ากระเทียมจากประเทศจีน ซึ่งราคาถูกกว่าเนื่องจากต้นทุนในการผลิตต่ำกว่า   เนื่องจากเขตการค้าเสรี (FTA) ถึงรัฐบาลไทยได้ลงนามเมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ.2546 ทำให้จีนสามารถนำเข้ากระเทียมเข้าไทยได้โดยไม่เสียภาษี   ผู้ปลูกกระเทียมในประเทศไทยกังวลเกี่ยวกับโครงการรถไฟจีน-ลาว พวกเขามีความกังวลว่าจะไม่ทำให้เกิดดุลการค้าต่อสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศไทย   เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นได้แสดงความกังวลว่าโครงการรถไฟจีน-ลาวนี้จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจการเกษตรและศักยภาพการแข่งขันของธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก (SMEs)   วิสาหกิจชุมชนเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียมที่ อ.บ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน ในภาพเหนือของประเทศไทยเร่งการโปรโมทการปลูกและจำหน่ายกระเทียมอินทรีย์ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดในจีนมากกว่า  ปฎิพงศ์ นุภาเลา  เกษตรกรผู้ปลูกกระเทียมท้องถิ่น กล่าวว่ากระเทียมจีนทะละสู่ตลาดในประเทศไทยซึ่งจะทำให้ผู้ซื้อจากจีนสั่งซื้อสินค้าจากไทยช้าลง  ส่วน  ชนะ ไชยชนะ ประธานเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียมอินทรีย์กล่าวว่า เกษตรกรไทยต้องแบกรับต้นทุนการผลิตกระเทียม ในขณะที่ในจีน การปลูกกระเทียมเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่มากเนื่องจากปลูกในพื้นที่กว้างขวางมากกว่า  และแม่ค้าปลีกได้ส่งสัญญาณเตือนให้หยุดนำเข้ากระเทียม เนื่องจากราคาของกระเทียมจีนนั้นราคาถูก ตกอยู่ประมาณกิโลกรัมละ 80 บาท เมื่อเทียบกับกระเทียบไทยที่จะอยู่ที่กิโลละ 100 บาท







ปฎิพงศ์ นุภาเลา, เกษตรกรผู้ปลูกกระเทียม ต.บ้านโฮ่ง “กระเทียบจีนถูกนำเข้าไทยโดยภาคธุรกิจขนาดใหญ่ ซึ่งจะทำให้ตลาดราคากระเทียมไทยราคาลง ทำให้เราขายกระเทียมไม่ได้   หากไม่มีการนำเข้ากระเทียมจีน เราจะสามารถขายกระเทียมได้ช่วงประมาณหลังสงกรานต์จนถึงประมาณเดือนพฤษภาคม การทะลักของกระเทียมจีนสู่ไทย ทำให้พ่อค้าคนกลางรับซื้อช้าเกินไป ปัจจุบันนี้ชาวสวนกระเทียมแทบจะยอมแพ้ที่จะปลูกกระเทียมในพื้นที่ “

ชนะ ชนะไชย, ประธานผู้ปลูกกระเทียมอินทรีย์ กล่าวว่า “ใบบริทบทเกี่ยวการปลูกกระเทียมในไทย เกษตรกรผู้ปลูกไม่สามารถแบกรับค่าใช้จ่ายในการผลิตได้   แต่ในขณะที่ในประเทศจีน ทั้งพื้นที่ปลูกและตลาดนั้นมีขนาดใหญ่เพราะพื้นที่ปลูกบริเวณกว้าง   ดังนั้น ปัญหาจึงเกิดตามมาเมื่อบริษัทจีนมีศักยภาพในการส่งออกสินค้าทางการเกษตรราคาถูก   ประชากรในไทยจำนวน 60 กว่าล้านคนเลือกพืชผัก ผลไม้ราคาถูก เพราะพวกยังมีรายได้ต่ำ”

อารยา ปินตายอง บอกว่า “กระเทียมไทยหัวจะเล็ก กระเทียมจีนหัวใหญ่   โดยทั่ว ๆ ไป กระเทียมไทยจะแพงกว่า   แล้วราคาขึ้น ๆ ลง ๆ ตามฤดู ในขณะที่กระเทียมไทยราคาแพงกว่า 100 บาท ขณะที่จีนราคาถูกกว่า ซึ่งเหตุการณ์ลักษณะนี้ไปเป็นเรื่อย ๆ มันอาจจะดีกว่าหากไม่นำเข้ากระเทียมจีน”

ชนะ ไชยชนะ, ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกกระเทียมออแกนิก กล่าวว่า “จริง ๆ แล้วรัฐบาลไทยนั้นตั้งรับกับการทะลักของสินค้าจีนโดยตั้งกำแพงภาษีค่อนข้างสูง ได้แก่ FTA   แต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงนั้นย้อนแย้งในบางคราว   ภาคธุรกิจมีกลโกงในบางครั้ง เช่น บอกว่าในตู้คอนเทนเนอร์นั้นบรรทุกแครอท แต่จริง ๆ เป็นกระเทียม   ผู้นำเข้านำกระเทียมไปเก็บไว้ในห้องเย็นที่ตั้งอยู่ข้าง ๆ ตลาดขนาดใหญ่   จากนั้นพวกเขาจึงทยอยนำมาขายในประเทศไทย”

ชนะ ไชยชนะ, ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกกระเทียมออแกนิก กล่าวเพิ่มว่า “กลุ่มเกษตกรผู้ปลูกกระเทียมจะต้องปรับตัวมากขึ้น ภาคธุรกิจและรัฐบาลมีความต้องการสินค้าออแกนิกเป็นจำนวนมาก   ถ้าเราอยากส่งออกสินค้าไปยุโรป เขาก็ตั้งเกณฑ์คัดเลือกเป็นเอกสารแสดงออแกนิกเฉพาะ EU หากอยากส่งไปจีน ทางประเทศจีนขอให้ผู้ส่งขนใบอนุญาติเช่นกัน 

ที่มา A24 News Agency

https://youtu.be/DwBC1lN0iV0

ข่าวยอดนิยม สังคมสนใจ

หนังสือพิมพ์ตาทันนิวส์ออนไลน์

ข่าวภูมิภาค เชิญเที่ยว ช๊อป ชิม ริมบึงสามพัน(ถนนคนเดิน) ...