05 มิถุนายน 2564

หนังสือพิมพ์ตาทันจำกัด

https://youtu.be/paFm5ME92uw
> รายการเจาะข่าวเด่น ประเด็นร้อน 
เรื่องร้องเรียน...
>ประชาชนมีบ้านเรือนอาศัยอยู่เกือบ 200 ปี >วันนี้เทศบาลต้องการพื้นที่ปรับปรุงภูมิทัศน์เป็นแหล่งท่องเที่ยว นายกรัฐมนตรีได้ มีหนังสือแจ้งให้








ราษฎร 30 กว่าหลังคาเรือนรื้อถอนอาคารบ้านเรือนที่ตนอาศัยอยู่ เกือบ 200 ปี ออกจากพื้นที่
... ประชาชนผู้อยู่อาศัยไม่รื้อถอนตามคำสั่งของนายกเทศมนตรี นายกเทศมนตรีได้ไปแจ้งความร้องทุกข์ กับเจ้าพนักงานสอบสวน เจ้าพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกให้ราษฎรไปรับทราบข้อกล่าวหา รายละเอียดตามที่ผู้ร้องเรียนให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2564 คณะทำงานฝ่ายกฎหมายมหาชน และทนายความจาก สำนักกฎหมาย
ดร.วิชิตและเพื่อน ได้ลงพื้นที่พร้อม กับ ดร.วิชิต ปลั่งศรีสกุล ศึกษาประเด็นปัญหาและแนวทางแก้ไข และให้การช่วยเหลือประชาชนที่ถูกดำเนินคดีในทางกฎหมาย และ ให้คำแนะนำประชาชน และชุมชน
ในการใช้สิทธิตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญปี 2560
เช่น *มาตรา 43 บุคคลและชุมชนย่อมมีสิทธิดังนี้.*มาตรา 43(3 )เข้าชื่อกันเพื่อเสนอแนะต่อหน่วยงานของรัฐให้ดำเนินการใดๆอันจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนหรือชุมชน หรือ งดเว้นการดำเนินการใดๆอันเป็นผลกระทบต่อความเป็นอยู่อย่างสงบสุขของประชาชน หรือชุมชนและได้รับแจ้งผลการพิจารณาโดยเร็ว ทั้งนี้หน่วยงานของรัฐต้องพิจารณาข้อเสนอแนะนั้นโดยให้ประชาคนที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมในการพิจารณาด้วยตามวิธีการที่กฎหมายบัญญัติ
  *มาตรา 58 การดำเนินการใดของรัฐหรือที่รัฐจะอนุญาตให้ผู้ใดดำเนินการถ้าการนั้นอาจมีผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ คุณภาพ สิ่งแวดล้อมสุขภาพอนามัย คุณภาพชีวิต หรือมีส่วนได้เสียสำคัญอื่นใดของประชาชน หรือชุมชนหรือสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง รัฐต้องดำเนินการให้มีการศึกษา และประเมินผล
กระทบคุณภาพสิ่งแวดล้อม และสุขภาพของประชาชน หรือชุมชนและจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียและประชาชน และชุมชนที่เกี่ยวข้องก่อนเพื่อนำมาประกอบการพิจารณาดำเนินการหรืออนุญาตตามที่กฎหมายบัญญัติ
 บุคคลและชุมชนย่อมมีสิทธิได้รับข้อมูลคำชี้แจงและเหตุผลจากหน่วยงานของรัฐก่อนการดำเนินการหรืออนุญาตตามวรรคหนึ่งในการดำเนินการหรืออนุญาตตามวรรคหนึ่งรัฐต้องระมัดระวังให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนชุมชนสิ่งแวดล้อมและความหลากหลายทางชีวภาพน้อยที่สุดและต้องดำเนินการให้มีการเยียวยาความเดือดร้อนหรือเสียหายให้กับประชาชนหรือชุมชนที่ได้รับผลกระทบอย่างเป็นธรรมและโดยไม่ชักช้า
. *มาตรา 5 รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ บทบัญญัติใดของกฎหมายกฎ หรือข้อบังคับหรือการกระทำใดขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญบทบัญญัติหรือการกระทำนั้นเป็นอันใช้บังคับมิได้
    เมื่อไม่มีบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้บังคับแก่กรณีใดให้การกระทำนั้นหรือวินิจฉัยกรณีนั้นไปตามประเพณีการปกครองประเทศไทยในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
    ....................
>รายการเจาะข่าวเด่น ประเด็นร้อน เรื่องร้องเรียน โดย อ.วิชิต ดิษฐประสพ
 มือถือ ID LINE 0 9 0 9 1 7 3 2 5 9
>นายสมชาย แย้มเกษร ภาพ/ข่าว 
>TTTV  ทีวีออนไลน์ และหนังสือพิมพ์ทันใจนิวส์อินไซด์ทีวี
วันที่ 5 มิถุนายน 2564
      ......................
>ประชาชน ชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับประชาชน ควรศึกษาและทำความเข้าใจบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ พ. ศ. 2560 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากปัจจุบันยังมีกฎหมายบางฉบับ หรือกฎหรือระเบียบที่ยังขัด หรือแย้งต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญปี 2560
หากหน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐใช้อำนาจหน้าที่ไม่เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ประชาชนมีสิทธิ และเสรีภาพในการนำบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญที่ถูกละเมิดสามารถยกบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญเพื่อใช้สิทธิทางศาล หรือยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้คดีในศาลได้
>ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ปี2560 *มาตรา 25 สิทธิและเสรีภาพของปวงชนชาวไทยนอกจากที่บัญญัติคุ้มครองไว้ในบทเฉพาะในรัฐธรรมนูญแล้วการใดที่ไม่ได้ห้ามหรือจำกัดไว้ในรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายอื่นบุคคลย่อมมีสิทธิและเสรีภาพที่จะทำนั้นได้และได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญตราบเท่าที่การใช้สิทธิหรือเสรีภาพเช่นว่านั้นไม่กระทบกระเทือนหรือเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของรัฐความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนและไม่ละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น
     สิทธิหรือเสรีภาพใดที่รัฐธรรมนูญให้เป็นไปตามกฎหมายบัญญัติหรือให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กฎหมายบัญญัติแม้ยังไม่มีการตรากฎหมายนั้นขึ้นมาใช้บังคับบุคคลหรือชุมชนย่อมสามารถใช้สิทธิหรือเสรีภาพนั้นได้ตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญบุคคลซึ่งถูกละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพที่รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญสามารถยกบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญเพื่อใช้สิทธิทางศาลหรือยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้คดีในศาลได้บุคคลซึ่งได้รับความเสียหายจากการถูกละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพหรือจากการกระทำความผิดอาญาของบุคคลอื่นย่อมมีสิทธิที่จะได้รับการเยียวยาหรือช่วยเหลือจากรัฐตามที่กฎหมายบัญญัติ
    *มาตรา 41 บุคคลและชุมชนย่อมมีสิทธิดังนี้
*มาตรา41( 1) ได้รับทราบและเข้าถึงข้อมูลหรือข่าวสารสาธารณะในครอบครองของหน่วยงานของรัฐตามที่กฎหมายบัญญัติ (2 )เสนอเรื่องราวร้องทุกข์ต่อหน่วยงานของรัฐและรับแจ้งผลการพิจารณาโดยรวดเร็ว( 3) ฟ้องหน่วยงานของรัฐให้รับผิดเนื่องจากการกระทำหรือการละเว้นการกระทำของข้าราชการพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยงานของรัฐ
        .......................
รายงานข่าว

ข่าวยอดนิยม สังคมสนใจ

หนังสือพิมพ์ตาทันนิวส์ออนไลน์

ข่าวภูมิภาค เชิญเที่ยว ช๊อป ชิม ริมบึงสามพัน(ถนนคนเดิน) ...