หนังสือพิมตาทันนิวส์

17 พฤศจิกายน 2566

หนังสือพิมพ์ตาทันนิวส์ออนไลน์

ข่าวภูมิภาค
ทัพเรือภาคที่ 2 /ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 2 โดย พลเรือตรีสุรเชษฐ์ ถาวรขจรกิจ รองบัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 แถลงข่าวการจับกุมเรือประมงเวียดนาม
ในวันพฤหัสบดีที่ 16 พ.ย.66 เวลา 07.30 น. ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 2 ได้รับแจ้งเบาะแสจากแหล่งข่าวในพื้นที่ว่ามีเรือประมงต่างชาติ เข้ามาทำการประมงผิดกฎหมายในเขตน่านน้ำไทย บริเวณแบริ่ง 149 ระยะ 38.6 ไมล์ จากเกาะกระ จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งอยู่ในเขตน่านน้ำภายใน 

ในการนี้ พลเรือโท พิจิตต  ศรีรุ่งเรือง ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 2 ได้สั่งการให้ เรือหลวงเทพา ลาดตระเวนพิสูจน์ทราบ โดยในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 เวลา 14.00 น. เรือหลวงเทพา ตรวจพบเรือประมงสัญชาติเวียดนาม ประเภทคาดปลิง จำนวน 1 ลำ มีผู้ควบคุมพร้อมลูกเรือรวม จำนวน 5 คน จากบริเวณที่ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าว กำลังลักลอบทำการประมงโดยการคาดปปลิงทะเล จึงได้ควบคุมเรือพร้อมลูกเรือทั้งหมด มาทำการสอบสวน ที่ท่าเทียบเรือฐานทัพเรือสงขลา ทัพเรือภาคที่ 2 เพื่อสอบสวนเพิ่มเติม และส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

การดำเนินคดีกับเรือประมงสัญชาติเวียดนาม เนื่องจากเป็นการจับกุมในพื้นที่เขตน่านน้ำภายใน จึงได้ตั้งข้อกล่าวหาผู้กระทำความผิดไว้ 3 ข้อหา ดังนี้
1. ใช้เรือประมงไร้สัญชาติทำการประมงในเขตการประมงไทย (ตาม พ.ร.ก.การประมง พ.ศ.2558 มาตรา 10)
2. ร่วมกันทำการประมงพาณิชย์โดยไม่มีใบรับอนุญาตทำการประมง (ตาม พ.ร.ก.การประมง พ.ศ.2558 )
3. ทำการประมงในเขตการประมงไทยโดยทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมเรือโดยไม่ได้รับอนุญาต (ตาม พ.ร.ก.ว่าด้วยสิทธิการประมงในเขตการประมงไทย พ.ศ.2482 )
ทั้งนี้ การปฏิบัติดังกล่าว เป็นไปตามนโยบาย รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ปี 2567 โดยร่วมกับ ทัพเรือภาคที่ 2 ในการประสานการปฏิบัติ ตั้งแต่ด้านการข่าว และจัดกำลังทางเรือ และอากาศนาวี ลาดตระเวน เฝ้าตรวจ และคุ้มครองผลประโยชน์ของชาติทางทะเลอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นย้ำการรุกล้ำน่านน้ำไทยของเรือประมงต่างชาติ เพื่อเข้ามาทำการประมงโดยผิดกฎหมาย จนประสบความสำเร็จในการจับกุมในครั้งนี้

สำหรับการปรากฏข่าวสารในโซเชียล ที่แจ้งว่า มีเรือประมงต่างชาติรุกล้ำเข้ามาในน่านน้ำไทย จำนวนกว่า 100 ลำ เพื่อลักลอบทำการประมงนั้น ข้อเท็จจริง จากการตรวจสอบ พบว่า เรือที่ลักลอบ ไม่ได้มีจำนวนมาก ตามที่ได้นำเสนอทางสื่อ ตรวจพบเพียงจำนวนน้อยมาก แต่ขณะเข้าจับกุม มีพฤติกรรมที่ก้าวร้าว และขัดขืนการจับกุมมากขึ้นกว่าแต่ก่อน
ท้ายนี้ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 2 ขอขอบคุณพี่น้องชาวประมง ในความร่วมมือที่ได้แจ้งเบาะแสของเรือที่กระทำความผิด และขอให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนและชาวประมงไทยว่า “ในพื้นที่รับผิดชอบของ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 2  ซึ่งมีพื้นที่กว่า 100,000 ตารางกิโลเมตร นั้น เราจะปกป้อง และรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลอย่างเต็มความสามารถ โดยมิยอมให้เรือประมงต่างชาติรุกล้ำเข้ามาแย่งชิงทรัพยากรในการทำการประมง เป็นอันขาด ทั้งนี้เพื่อให้ทรัพยากรของประเทศไทย คงอยู่กับลูกหลานของคนไทยตลอดไป

ซัมซูดิน เจ๊ะแดร์ ศูนย์ข่าวหนังสือพิมพ์ทันใจนิวส์จังหวัดสงขลา
สนับสนุนโดย
รายงานข่าว