หนังสือพิมตาทันนิวส์

25 มิถุนายน 2565

หนังสือพิมพ์ตาทันนิวส์ออนไลน์

กรมศุลกากรเปิดแผนปฏิบัติการ"ยุทธการกำแพงพระนคร(Narcoticcs Operation Guardian) ระหว่างไทยกับมาเลเซีย 
 เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร พร้อมสร้างเครือข่าย ทั้งในและต่างประเทศ เป็นการปิดกั้นเส้นทางการลักลอบขนยาเสพติดบริเวณชายแดไทย ณ ห้องประชุมพระนิกรบดี ด่านศุลกากรสะเดา อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา 

      เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2565 นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากรได้มอบหมายให้ นายถวัลย์ รอดจิตต์ ผู้อำนวยการกองสืบสวนและปราบปราม  ได้เปิดเผยแผนปฏิบัติการ"ยุทธการกำแพงพระนคร" ว่าจากปัญหาการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศไทยผ่านช่องทางศุลกากรทั้งท่าเรือ สนามบิน รวมทั้งแนวชายแดนต่างๆ ยังคงปรากฏอย่างต่อเนื่อง กรมศุลกากรในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่ป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าส่งออกยาเสพติด อีกทั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติที่ 11/2564 มีคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการสกัดกั้นการลักลอบส่งออกแล้วนำเข้ายาเสพติด ซึ่งมีอธิบดีกรมศุลกากรเป็นประธานอนุกรรมการ จึงเร่งรัดดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อสกัดกั้นการลักลอบเคลื่อนย้ายยาเสพติดข้ามชาติให้ได้ผลอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะตามแนวชายแดน ที่ยังคงมีการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศอย่างต่อเนื่องสร้างความเสื่อมเสียและเกิดผลกระทบต่อประเทศ กรมศุลกากรจึงได้จัดทำโครงการเปิดปฏิบัติการ"ยุทธการกำแพงพระนคร"ขึ้น

       ผู้อำนวยการกองสืบสวนและปราบปราม  กล่าวอีกว่า " ยุทธการกำแพงพระนคร" เป็นการประชุมเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับความร่วมมือและแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารเพื่อสกัดกั้นยาเสพติดระหว่างศุลกากรไทยมาเลเซียลาวกัมพูชาและเมียนมาร์ รวมถึงหน่วยงานความมั่นคง ตลอดจนหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง มิถุนายน-กันยายน 2565 และในวันนี้เป็นการดำเนินการโครงการครั้งแรกระหว่างศุลกากรไทยกับศุลกากรมาเลเซีย หน่วยงานความมั่นคงไทย- มาเลเซีย  ที่ด่านสะเดา ซึ่งเป็นด่านทางบกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา

        สำหรับครั้งต่อไปจะจัดที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ด่านศุลกากรมุกดาหารจังหวัดมุกดาหารภาคกลางที่ด่านศุลกากรอรัญประเทศจังหวัดสระแก้วและภาคเหนือที่ด่านศุลกากรแม่สายจังหวัดเชียงรายร่วมกับประเทศ สปป.ลาว กัมพูชาและเมียนมาร์ ตามลำดับ

        ด้าน น.ส.สุไฮลา บินตี โมหัมหมัดนอร์ ( Suhaila binti Mohamad Noor)
หัวหน้าแผนกบังคับคดี/รักษาการผู้อำนวยการศุลกากรบูกิตกายูฮิตัม เคดาห์  กล่าวว่า “ก่อนอื่นรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งและขอขอบคุณที่ได้รับเชิญมาร่วมประชุมในครั้งนี้ และขอขอบข้อมูลจากประเทศไทยเกี่ยวกับคดีลักลอบขนยาเสพติดในประเทศไทย และประเทศเพื่อนบ้านรวมถึงมาเลเซียด้วย ดังนั้นในการประชุมครั้งนี้ เราหวังว่าจะทำงานอย่างใกล้ชิดมากขึ้นระหว่างมาเลเซียและไทยในการปราบปรามการลักลอบขนยาเสพติดตามตะเข็บชายแดนแม้ว่าโรคระบาดจะยังคงอยู่ ดังนั้นเราหวังว่าด้วยความร่วมมือกับศุลกากรของไทย เราจะสามารถสัดการลักลอบนำเข้าทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางบก 

     เราจะเพิ่มการตรวจที่เข็มงวดมากขึ้นในการตรวจตรานักท่องเที่ยว  โดยเฉพาะการเข้าออกทางบน เรามีการตรวจผู้โดยสารไม่เว้นรถโดยสารหรือรถยนต์ส่วนตัว เราจะตรวจสอบผู้โดยสารอย่างละเอียดและเราจะให้ข้อมูลแก่นักท่องเที่ยวทั้งจากมาเลเซียสู่ไทยหรือไทยไปมาเลเซียว่ามาเลเซียยังคงห้ามการนำเข้า ยาเสพติดทุกชนิดรวมทั้งกัญชาด้วย แม้ว่าที่ประเทศไทยได้อนุญาตให้ใช้กัญชาแต่ห้ามนำเข้ามาเลเซียเด็ดขาด เราจะมีการเพิ่มการปฏิบัติตามชายแดนและทำอย่างต่อเนื่อง  และเราจึงนำข้อมูลเกี่ยวกับยาเสพติดไปเผยแพร่ต่อชุมชนเพราะมีคนไม่รู้ถึงโทษของยาเสพติด 

        ทั้งนี้การแลกเปลี่ยนข้อมูลและข่าวสารและการบูรณาการร่วมกันทุกหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทั้งในประเทศและต่างประเทศจะสกัดกั้นการลักลอบขนส่งยาเสพติดข้ามแดนเพื่อปกป้องสังคมให้ปลอดพ้นยาเสพติดได้อย่างยั่งยืนต่อไป

ซัมซูดิน เจ๊ะแดร์ รองหัวหน้าศูนย์ข่าวหนังสือพิมพ์ทันใจนิวส์จังหวัดสงขลา
สนับสนุนโดย
รายงานข่าว