ประชาชน ผู้สูงอายุ กลุ่ม 608 อ.เบตง จ.ยะลา เร่งเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ใน สัปดาห์รณรงค์ฉีดวัคซีนโควิด
ยะลา - ประชาชน ผู้สูงอายุ กลุ่ม 608 อ.เบตง จ.ยะลา เร่งเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ใน สัปดาห์รณรงค์ฉีดวัคซีนโควิด สร้างภูมิป้องกัน ลดความเสี่ยงการติดเชื้อโควิดโอมิครอน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ และรองรับการเปิดด่านพรมแดนทางบก ในเดือน เม.ย.นี้ พร้อมให้การรักษาโควิด-19 แบบ UCEP Plus
วันนี้ (21 มี.ค.65) ที่โรงพยาบาลเบตง อ.เบตง จ.ยะลา ประชาชน ผู้สูงอายุ กลุ่ม 608 อ.เบตง จ.ยะลา เร่งเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ใน สัปดาห์รณรงค์ฉีดวัคซีนโควิด สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนได้เลยทันที โดยไม่ต้องจองคิว เพียงแต่นำบัตรประชาชน และหลักฐานการฉีดวัคซีนมาเท่านั้น ฉีดได้ทั้งเข็มแรก เข็มที่ 2 เข็มที่ 3 และเข็มที่ 4 โดยมีทั้งวัคซีนไฟเซอร์ แอสตร้าฯ, ซิโนฟาร์ม และซิโนแวค โดยส่วนใหญ่ก็จะฉีดเข็ม 3 ผู้ใหญ่บางคนก็จะมาฉีดเข็ม 4 ตามกำหนด เพื่อสร้างภูมิป้องกัน ลดความเสี่ยงการติดเชื้อโควิดโอมิครอน ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ และรองรับการเปิดด่านพรมแดนทางบก ในเดือน เม.ย.นี้ เนื่องจาก อ.เบตงพบจำนวนผู้ติดเชื้อของโควิด-19 ทยอยเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงนี้
นายวงศ์วิทย์ อัครวโรทัย สาธารณสุขอำเภอเบตง กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ระลอกใหม่ ในพื้นที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ประจำวันที่ 21 มีนาคม 2565 พบผู้ป่วยรายใหม่ 63 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 1,199 ราย จึงขอเชิญชวนให้ประชาชน ผู้สูงอายุ เร่งเข้ารับการฉีดวัคซีนในสัปดาห์รณรงค์ฉีดวัคซีนโควิด สร้างภูมิป้องกัน ลดความเสี่ยงการติดเชื้อโควิดได้ที่โรงพยาบาล หรือโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทุกแห่ง และที่ป้อม ศอร. กม.2 โดยเฉพาะอย่ายิ่งการฉีดวัคซีนในห้วงนี้จนถึงสิ้นเดือนมีนาคมเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะในช่วงเทศกาล
สงกรานต์ กลางเดือนเมษายนนี้ ลูกหลานจะกลับภูมิลำเนา ทำให้มีโอกาสเสี่ยงสูงมากที่จะมาเชื้อโควิดมาแพร่ให้กับผู้สูงอายุ อีกทั้งรองรับการเปิดด่านพรมแดนทางบก ในเดือน เม.ย.นี้ อีกด้วย
ส่วนแนวทางการให้การรักษาผู้ติดเชื้อโควิด 19 ตามโครงการ UCEP Plus (ยูเซปพลัส) หากติดเชื้อโควิด-19 เป็นเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติ กรณีติดเชื้อโรคโควิด-19 เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อโควิดในกลุ่มผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติสีแดงและสีเหลือง รวมถึงสีเขียวที่อาการเปลี่ยนแปลงเป็นสีเหลือง หรือ สีแดง ทีมีอาการที่เข้าข่ายติดเชื้อโควิด-19 ที่รุนแรง อาทิ ภาวะหัวใจหยุดเต้น หายใจลำบากเฉียบพลัน มีภาวะช็อก มีภาวะโคม่า มีอาการไข้สูงเกิน 39 องศาเซลเซียส มากกว่า 24 ชั่วโมง หรือผู้ป่วยมีความเสี่ยงสูงตามดุลยพินิจของแพทย์ มีอาการอย่างอื่นร่วมด้วย คือ เหนื่อยหอบ หายใจเร็ว มีปัจจัยเสี่ยงอาการรุนแรงหรือโรคร่วม เช่น อายุมากกว่า 60 ปี โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคปอดเรื้อรังอื่น ๆ ไตเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหัวใจแต่กำเนิด โรคหลอดเลือดสมอง เบาหวานที่คุมไม่ได้ ภาวะอ้วน น้ำหนักเกิน 90 กิโลกรัม หญิงตั้งครรภ์ ตับแข็ง ภูมิคุ้มกันต่ำ หรืออื่น ๆ ตามดุลยพินิจของผู้คัดแยก สามารถเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลรัฐ หรือเอกชน แห่งใดก็ได้ รักษาจนกว่าจะหายป่วยฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย
ข่าว..เจษฎา สิริโยทัย อ.เบตง จ.ยะลา โทร.064-126-5593 – 080-036-2786