ตาทันนิวส์ออนไลน์ TT.TV.Online

“อลงกรณ์”เดินหน้าพัฒนาเรือประมง ผนึกศูนย์พัฒนาการประมงแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ร่วมสมาคมประมงไทยพัฒนาเทคโนโลยีการจับปลา ยึด”เรือฝึกปลาลัง”เป็นต้นแบบ มุ่งลดต้นทุนแรงงาน-พลังงาน 

วันนี้ (31 มีนาคม 2565) นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพการประมงไทย เข้าเยี่ยมชมเรือฝึก"ปลาลัง" ณ ศูนย์พัฒนาการประมงแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEAFDEC) จ.สมุทรปราการ โดยมี นายบัญชา สุขแก้ว นายประพันธ์ ลีปายะกุล รองอธิบดีกรมประมง นางมาลินี สมิทธิ์ฤทธี เลขาธิการศูนย์พัฒนาการประมงแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ MR.Koichi Honda จากรัฐบาลญี่ปุ่น นายพิชัย แซ่ลิ้ม นายกสมาคมประมงสมุทรปราการและกรรมการสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย และเจ้าหน้าที่ศูนย์พัฒนาการประมงฯ กรมประมง ให้การต้อนรับ พร้อมทั้งรับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ของโครงการเรือฝึก"ปลาลัง"

ทั้งนี้ เรือฝึก “ปลาลัง” เดิมเป็นเรือประมงอวนล้อมจับ และได้รับการพัฒนาปรับปรุงให้เป็นเรือฝึกประมงอวนลากในปี 2564 ด้วยงบประมาณสนับสนุนจากกรมประมงและรัฐบาลญี่ปุ่น ภายใต้งบประมาณ Japanese Trust Fund ในหัวข้อโครงการ Responsible Fishing Technology and Practice ให้เป็นเรือฝึกประมงตัวอย่าง ในการพัฒนา ปรับปรุงเครื่องมือทำการประมง เพื่อช่วยลดต้นทุนในการประกอบอาชีพด้วยการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม และใช้พลังงานเชื้อเพลิงอย่างคุ้มค่า ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและแหล่งทำการประมง รวมถึงภาวะโลกร้อน (Low Impact and Fuel Efficient)  นอกจากนี้ ยังมีเป้าหมายสำคัญในการยกระดับความเป็นอยู่และสุขอนามัยที่ดีของลูกเรือบนเรือประมง เสริมสร้างความปลอดภัยการทำงานในทะเล การส่งเสริมและให้ความสำคัญในด้านการเก็บรักษาคุณภาพสัตว์น้ำบนเรือประมง ทั้งแบบสดและมีชีวิต (Fresh & Life Fish) อย่างถูกสุขลักษณะ เพื่อให้สัตว์น้ำที่จับได้สามารถคงความสด ลดการสูญเสีย และขายได้ราคาดี เป็นที่ต้องการของตลาด

ทั้งนี้ นายอลงกรณ์ ได้เสนอแนะให้ศูนย์ซีฟเดคและกรมประมงบูรณาการความร่วมมือกับศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม (AIC) ในการนำเทคโนโลยี และเครื่องจักรกลมาใช้ในการพัฒนาเรือประมงของไทยต่อยอดจากแนวทางการพัฒนาเรือฝึก “ปลาลัง” ซึ่งถือว่าเป็นต้นแบบที่ดี ขอให้สมาคมการประมง เข้ามาร่วมกันพัฒนาปรับปรุงเรือประมงของไทยมุ่งเป้า 1 จังหวัด 1 ลำ 

    จากนั้นนายอลงกรณ์และคณะได้เยี่ยมชมเรือปลาฝึกลังเรือจุฬาภรณ์และเรือมหิดลพร้อมทั้งให้กำลังใจกรรมการสมาคมประมง เจ้าหน้าที่กรมประมงและลูกเรือก่อนที่เรือฝึกปลาลังจะออกทำการลากอวนในอ่าวไทยตอนบนช่วงบ่ายวันนี้

ตาทันนิวส์ออนไลน์ TT.TV.Online

ยะลามะนาวปรับราคาขึ้น ลูก 10 บาท

ยะลา – มะนาวในตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง จ.ยะลา พร้อมเพียงกันปรับขึ้นราคา  มะนาวจากราคาถุง 10 กิโลกรัมราคาถุงละ 500-600 บาท ปรับขึ้นเป็นถุงละ 800 -1.000 บาท หากเป็นมะนาวแป้นกระสอบละ 1,300 บาท แม่ค้าเผยที่ตลาดสดเทศบาลเมืองเบตงต้องแบ่งขายเป็นลูกตกลูกละ 10 บาท และมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นอีก ขณะที่ผู้บริโภคร้านอาหาร ร้านส้มตำ ร้านยำ ยังจำเป็นต้องใช้ เพราะเปรี้ยวอย่างอื่นไม่เหมือนรสเปรี้ยวของมะนาว

เมื่อวันที่ 31 มี.ค. ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจราคามะนาว ที่ตลาดสดเทศบาลเมืองเบตงและตลาดนัด ใน อ.เบตง จ.ยะลาพบว่ามีการปรับราคาการจำหน่ายขึ้นมาตั้งแต่ช่วงตรุษจีน ต้นเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา โดยล่าสุดขึ้นราคาเป็นถุงละ800- 1,000 บาท ถุงละ 10 กิโลกรัม หากเป็นมะนาวแป้นกระสอบละ 1,300 บาท และมีแนวโน้มที่จะปรับราคาเพิ่มสูงขึ้นในช่วงเดือนเมษายนนี้

แม่ค้าขายผักสด บอกว่า ราคามะนาวในระยะนี้มีการปรับราคาขึ้นทุกวัน ซึ่งวันนี้ราคามะนาว ถุงละ10 กิโลกรัม อยู่ที่ถุงละ 800 -1,000 บาท จากเดิมช่วงที่ผ่านมาอยู่ที่ถุงละ 500 - 600 บาทถุงละ 10 กิโลกรัม ซึ่งการปรับราคานั้นจะทยอยปรับขึ้นมาตั้งแต่หลังเทศกาลตรุษจีน ทำให้ขณะนี้ราคามะนาวสด ปรับขึ้นมาถุงละ 800 - 1,000 บาท ทั้งที่ก่อนหน้านี้อยู่ที่กระสอบละ 500 -600 บาท  และในเดือนหน้ามีแนวโน้มจะขึ้นอีกเพราะเป็นช่วงหน้าแล้งและมะนาวออกผลน้อย ซึ่งการที่ราคามะนาวแพงขึ้น อาจเป็นเพราะร้านอาหารเปิด เพราะเป็นช่วงเปิดเมือง และกำลังจะเปิดประเทศด้วย ทำให้คนต้องการใช้มะนาวเยอะขึ้น จึงทำให้แพงสุดในปีนี้   

แม่ค้า บอกอีกว่า  หากราคาเป็นแบบนี้แม่ค้าขายมะนาวก็แย่ เพราะมะนาวลูกละ10 บาทเห็นใจคนซื้อแต่ทำไงได้มาแพงก็ต้องขายแพงปัจจัยราคาที่แพงมาจาก ราคาน้ำมันแพง และเป็นช่วงหน้าแล้งด้วยผลผลิตออกน้อย  ซึ่งแต่ก่อนมะนาวลูกใหญ่สุดลูกละไม่เกิน 3 - 5 บาท และคาดว่าปีนี้ราคาจะขึ้นไปถึงกระสอบละ 2,000  - 3,000  บาทอย่างแน่นอน  ทำให้บางร้านต้องจัดแบ่งเป็นชุดใส่ตระกร้าเล็กขาย 4 ลูก 40 บาทเพื่อเป็นอีกทางเลือกให้ผู้ซื้อ  ที่ผ่านมาราคามะนาวเคยขึ้นไปถึงลูกละ 16  บาท แต่ก็ 2-3 ปีมาแล้ว และปีนี้มีแนวโน้มราคายังคงจะขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้พ่อค้า แม่ค้า ต้องปรับตัวรับมาเฉพาะพอขายในแต่ละวัน    ขณะที่ลูกค้าส่วนใหญ่ที่เป็นพ่อค้า แม่ค้า ร้านส้มตำ ร้านยำ ก็ปรับลดกำลังซื้อลงจากเดิมเคยซื้อ 100 -200 ลูก ลดลงเหลือ 50 – 60  ลูก และเลือกที่จะใช้อย่างอื่นมาทดแทนความเปรี้ยวของมะนาว แต่รสชาติอาหารจะไม่ได้ตามที่ต้องการ เพียงแต่อาจจะใช้ทดแทนกันได้เป็นบางอย่าง อย่างส้มตำจะขาดมะนาวไม่ได้ ยำต่างๆ ข้าวผัดจะให้ไปใส่น้ำมะขามเปียกก็ไม่ได้ น้ำจิ้มซีฟู้ดก็ขาดมะนาวไม่ได้ รสชาติก็ไม่เหมือนกัน  

ส่วนที่แผงผักสด ตลาดโก้งโค้ง ซึ่งเป็นตลาดนัดยามเช้า พบว่า มะนาวมีการปรับราคาขึ้นโดยแม่ค้าได้จัดใส่ตระกร้าเล็กแยกเป็นชุดแบ่งขาย 4 ลูก 40 บาท จากเดิม ชุดละ 15 - 20 บาท ปรับขึ้นชุดละราคา 40 บาท ตระกร้ามี 4 ลูกเพื่อเป็นอีกทางเลือกให้ผู้ซื้อ ซึ่งขณะนี้ราคามะนาวปรับราคาขึ้น  ซึ่งแม่ค้าขายผักอีกรายบอกว่า ในช่วงหน้าร้อน หน้าแล้ง ตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไป เป็นช่วงที่มะนาวเริ่มขาดตลาด มะนาวหายาก ชาวสวนมะนาวเองก็มีผลผลิตมะนาวมาส่งขายน้อยลง ทำให้มะนาวปรับขึ้นราคา ซึ่งเป็นเช่นนี้ในช่วงหน้าแล้งของทุกปี ลูกค้าส่วนใหญ่ โดยเฉพาะลูกค้าที่นำมะนาวไปทำอาหาร หรือ นำไปทำเป็นเครื่องดื่มขายต่อ ก็จำเป็นต้องซื้อในราคานี้ แต่อาจจะซื้อน้อยลง จากเดิมที่ซื้อคราวละมากๆ เป็นกระสอบก็ซื้อน้อยลง หรือใช้วิธีทยอยซื้อ

เสียงแม่ค้าขายผักสดท้ายคลิป .....

ข่าว..เจษฎา สิริโยทัย อ.เบตง จ.ยะลา  โทร.064-126-5593 – 080-036-2786

ตาทันนิวส์ออนไลน์ TT.TV.Online

นักวิเคราะห์ชี้ จีน 'เงียบ' สนับสนุนการรุกรานของรัสเซีย

ธากา/ บังคลาเทศ- ในขณะที่วิกฤตยูเครนรุนแรงขึ้นท่ามกลางการประณามนานาชาติของมอสโกเกี่ยวกับการบุกรุกลึกเข้าไปในยูเครน คุกคามเมืองหลวง Kyiv

โลกส่วนใหญ่เข้าข้างยูเครนอย่างเปิดเผยและเรียกร้องให้ยุติสงครามที่คร่าชีวิตผู้คนไปหลายพันคน

อย่างไรก็ตาม จีนยังถูกมองว่าไม่มีการตัดสินใจ เนื่องจากผู้เชี่ยวชาญและนักวิเคราะห์ทางการเมืองกล่าวว่าปักกิ่งกำลังพยายามสร้างสมดุลโดยพยายามไม่ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เนื่องจากเพิ่งกระชับความสัมพันธ์กับทั้งสองประเทศที่ก่อสงคราม

จีนปฏิเสธที่จะประณามการโจมตีของรัสเซียในยูเครนและเรียกร้องให้ตะวันตกคำนึงถึงความกังวลของวลาดิมีร์ปูตินเกี่ยวกับ NATO

จีนยังอ้างว่าการคว่ำบาตรไม่ได้ช่วยความขัดแย้ง และปฏิเสธที่จะระบุว่าการโจมตียูเครนเป็นการบุกรุก

สื่อทางการของจีนปฏิบัติตาม โดยส่วนใหญ่หลีกเลี่ยงภาษาเช่น "บุกรุก" เพื่ออธิบายการโจมตีของรัสเซีย แทนที่จะเรียกพวกเขาว่า "ปฏิบัติการทางทหารพิเศษ"

Dr. Bashir Ahmed ซึ่งเป็นศาสตราจารย์ด้านการเมือง กล่าวว่า จีนยอมรับนโยบายไม่แทรกแซงกิจการของประเทศอื่นมาช้านานแล้ว โดยชี้ว่าในตัวอย่างวิกฤตในยูเครน จีนแหกกฎของตนเองโดยสนับสนุนมอสโกโดยปริยาย บุกอธิบายว่าจีนมีส่วนได้เสียในยูเครน

“เรารู้ว่าในประเด็นระหว่างประเทศที่แตกต่างกัน จีนจะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรัสเซีย พวกเขามีความสัมพันธ์ฉันมิตร พวกเขาจะไม่ต้องการทำลายความสัมพันธ์ของพวกเขา ตามโพลาไรซ์ในปัจจุบัน จีนจะไม่ทำอะไรที่เป็นภัยต่อรัสเซีย” Dr. Md Khalid Kuddus ศาสตราจารย์ภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัย Jahangirnagar กล่าวว่า:

Dr. Abdullah Hel Kafi ศาสตราจารย์ภาควิชาวิเทศสัมพันธ์ มหาวิทยาลัย Jahangirnagar กล่าวว่า; “ปรัชญาการเมืองของจีนและรัสเซียมีความคล้ายคลึงกัน และยุโรปตะวันตกมีความคล้ายคลึงกันในปรัชญาการเมืองกับอเมริกา ดังนั้นตำแหน่งของพวกเขาจึงแตกต่างกันเสมอ แต่ในโลกนี้ ประเทศใดไม่ควรสนับสนุนการรุกราน ไม่มีทางเลือกอื่นในการเจรจา ปัญหาทั้งหมดควรได้รับการแก้ไขด้วยการเจรจา”

ที่มา A24 News Agency

https://youtu.be/Pyg1awrcOhM

ตาทันนิวส์ออนไลน์ TT.TV.Online

โรงพยาบาลใช้เลเวอเรจการนำทางสำหรับการผ่าตัดสมอง

อูลานบาตอร์ มองโกเลีย - มองโกเลียได้เห็นความก้าวหน้าทางการแพทย์ครั้งใหม่ด้วยการถือกำเนิดของเทคโนโลยีทางการแพทย์ใหม่ในโรงพยาบาลกลางแห่งที่สามของมองโกเลีย ซึ่งเริ่มทำการผ่าตัดโดยใช้ระบบนำทางประสาท

สิ่งนี้เกิดขึ้นได้ด้วยกองทุนจากธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) ซึ่งให้ทุนแก่โรงพยาบาลเพื่อรับระบบแนะนำการนำทางล่าสุด

ตามที่ศัลยแพทย์ระบบประสาท S. Abai กล่าวว่า ADB ได้จัดหาเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัยที่สุดให้กับโรงพยาบาลของพวกเขา ซึ่งรวมถึงกล้องจุลทรรศน์เพื่อการผ่าตัด กล้องเอนโดสโคป และเครื่องมือนำทางระบบประสาทที่มีมูลค่ามากกว่า 20 พันล้าน MNT [US6.8 ล้าน]

การผ่าตัดบางอย่างถูกยกเลิกโดยข้อเท็จจริงที่ว่าเนื้องอกบางชนิดไม่สามารถไปถึงได้เนื่องจากขาดอุปกรณ์ที่เหมาะสม

สิ่งนี้ทำให้ชาวมองโกเลียต้องไปพบแพทย์ในต่างประเทศ ผู้ป่วยในปัจจุบันยังคงได้รับการรักษาพยาบาลที่ดีที่สุดในมองโกเลียด้วยเทคโนโลยีใหม่

การจัดหาอุปกรณ์นำทางช่วยให้ศัลยแพทย์เข้าถึงโรคหลอดเลือดบางชนิด และฝีที่อยู่บริเวณลึกของกะโหลกศีรษะได้ง่ายขึ้น นอกเหนือจากบทบาทในการลดการระคายเคืองของเนื้อเยื่อสมองที่มีสุขภาพดีในขณะที่เข้าถึงรอยโรคในสมองส่วนลึก

‘’ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่รู้จักกันดีของบริษัทในโลก อุปกรณ์นำทางศัลยกรรมประสาทได้รับการติดตั้งที่โรงพยาบาลกลางแห่งที่สามของมองโกเลีย เป็นอุปกรณ์นำทางระบบประสาทเครื่องแรกและแห่งเดียวในมองโกเลีย” เอส. บิลกุนเดมเบอร์เรล วิศวกรอาวุโสของ MED Mongol LLC กล่าว

ที่มา A24 News Agency

https://youtu.be/PPMKFwrccac

ที่ทำการพรรคประชาไทย

พรรคประชาไทย >ดร.บุญยงค์ จันทร์แสง หัวหน้าพรรคประชาไทย ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาไทย ลำดับที่ 1

> นายวิชิต ดิษฐประสพ รองหัวหน้าพรรคประชาไทยฝ่ายกฎหมาย ว่าที่.ผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคประชาไทย มือถือ ID line 064 516 6794

>นายสมชาย แย้มเกษร กรรมการบริหารพรรคประชาไทย

ว่าที่.ผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคประชาไทย

#ขอโอกาสในการทำหน้าที่แทนปวงชนชาวไทยในการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งหน้าที่จะถึงนี้..เพื่อไปทำหน้าที่ด้านนิติบัญญัติ นำความเดือดร้อนของประชาชนเข้าแก้ไขในระบบรัฐสภาและคณะรัฐมนตรี และเสนอยกเลิกกฎหมายที่หมดความจำเป็นหรือกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการดำรงชีวิตของประชาชน และเสนอยกร่างกฎหมายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน เช่น ออกกฎหมายมารองรับสิทธิในที่ดินทำกินที่ประชาชนมีอยู่ก่อนแล้วให้ถูกต้องตามกฎหมาย.

https://www.thanjainews2017.com/2022/03/blog-post_146.html

ตาทันนิวส์ออนไลน์ TT.TV.Online

ที่ทำการพรรคประชาไทย

>ดร.บุญยงค์ จันทร์แสง หัวหน้าพรรคประชาไทย ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาไทย ลำดับที่ 1

> นายวิชิต ดิษฐประสพ รองหัวหน้าพรรคประชาไทยฝ่ายกฎหมาย ว่าที่.ผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคประชาไทย มือถือ ID line 064 516 6794

>นายสมชาย แย้มเกษร กรรมการบริหารพรรคประชาไทย

ว่าที่.ผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคประชาไทย

#ขอโอกาสในการทำหน้าที่แทนปวงชนชาวไทยในการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งหน้าที่จะถึงนี้..เพื่อไปทำหน้าที่ด้านนิติบัญญัติ นำความเดือดร้อนของประชาชนเข้าแก้ไขในระบบรัฐสภาและคณะรัฐมนตรี และเสนอยกเลิกกฎหมายที่หมดความจำเป็นหรือกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการดำรงชีวิตของประชาชน และเสนอยกร่างกฎหมายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน เช่น ออกกฎหมายมารองรับสิทธิในที่ดินทำกินที่ประชาชนมีอยู่ก่อนแล้วให้ถูกต้องตามกฎหมาย.

ตาทันนิวส์ออนไลน์ TT.TV.Online

มังคุดของดีเมืองจันท์ พาณิชย์จันทบุรี เตรียมส่งถึงบ้านพร้อมกระจายมังคุดคุณภาพจากสวน ผ่านไปรษณีย์ไทย การันตี มังคุดจันท์ ทานได้ทุกลูก

วันนี้ ( 30 มี.ค.65 ) ที่บริเวณลานอเนกประสงค์ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดจันทบุรี นายสุพจน์ ภูติเกียรติขจร รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วย พาณิชย์จังหวัด เกษตรจังหวัดหอการค้าจังหวัด ผู้แทนวิสาหกิจชุมชน ผู้แทนเกษตรกร และผู้จัดการไปรษณีย์จังหวัดจันทบุรีได้ร่วมแถลงข่าวเปิด

ฤดูกาล"มังคุดจันท์" คุณภาพจากสวนสู่ผู้บริโภค ทั้งนี้ผลผลิตมังคุดของเกษตรกรจังหวัดจันทบุรี ในปีนี้มีพื้นที่ยืนต้น 127,695 ไร่ มีพื้นที่ให้ผล 126,156 ไร่ คาดว่าจะมีปริมาณผลผลิต 145,079 ตัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 73,384 ตัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 103 ผลผลิตจะออกมากในช่วงเดือนพฤษภาคม คิดเป็นร้อยละ 43.48 ประมาณ 55,675 ตัน รองลงมาเดือนมิถุนายนคิดเป็นร้อยละ 29.56  พื้นที่ปลูกแหล่งใหญ่ ได้แก่ อำเภอท่าใหม่ ขลุง เขาคิชฌกูฎ และมะขาม จังหวัดจันทบุรี โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัด สำนักงานเกษตรจังหวัด หอการค้าจังหวัด  วิสาหกิจชุมชนมังคุดแปลงใหญ่คิชฌกูฏ และวิสาหกิจชุมชนหุ้นส่วนมังคุดจันทบุรี ร่วมกับไปรษณีย์ไทย ได้มีแผนกระจายผลผลิตสู่ผู้บริโภคในจังหวัดต่างๆ โดยในช่วงต้นฤดูนี้จึงขอจัดส่ง "มังคุดจันท์" ไปให้เครือข่ายพาณิชย์จังหวัด ในฐานะเซลล์แมนจังหวัดทั่วประเทศ(ยกเว้นจังหวัดแหล่งผลิตมังคุดภาคใต้ ได้ลองรับประทานมังคุดคุณภาพจากจันทบุรี เพื่อสร้างความมั่นใจในคุณภาพ "มังคุดจันท์" คัดสรรคุณภาพทุกลูก ไม่ตก(ดิน) ไม่แตก ยางไม่ไหล นอกจากนี้ ยังได้มีการพัฒนาบรรจุภัณฑ์เป็นลังพลาสติก สะดวกในการขนส่ง สามารถวางทับซ้อนกันได้ รักษาคุณภาพมังคุดได้เป็นอย่างดีจนถึงมือผู้บริโภค โดยบรรจุลังละ 7 กิโลกรัม สำหรับราคาเป็นไปตามกลไกตลาดในแต่ละช่วงเวลาทั้งนี้ จังหวัดจันทบุรีขอความร่วมมือเครือข่ายเซลล์แมนจังหวัดทั่วประเทศ ช่วยประชาสัมพันธ์ไปยังผู้ประกอบการค้าและผู้บริโภคให้มั่นใจในคุณภาพ "มังคุดจันท์" และรวบรวมคำสั่งซื้อจัดส่งให้จังหวัดจันทบุรีเพื่อจัดส่ง "มังคุดจันท์" คุณภาพจากสวนสู่ผู้บริโภค โดยสามารถสั่งผ่านสำนักงานพาณิชย์จังหวัดจันทบุรี สำนักงานเกษตรจังหวัด หรือ บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัดสาขาจันทบุรี รับรองคุณภาพ และราคายุติธรรม 

ภาพ/ข่าว จรัล บรรยงคเสนา จ.จันทบุรี

พรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออก

ตาทันนิวส์ออนไลน์ TT.TV.Online

ผวจ.ยะลา ประชุมการเตรียมความพร้อมเปิดพื้นที่การท่องเที่ยวในรูปแบบ Test and Go และ One Day Trip  ช่องทางบก  

ยะลา - ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ประชุมการเตรียมความพร้อมเปิดพื้นที่การท่องเที่ยวในรูปแบบ Test and Go และ One Day Trip  ช่องทางบก  เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการเปิดด่านพรมแดนระหว่าง อ.เบตง จ.ยะลา และ ด่านบูกิตบือราปิต รัฐเคดาห์ ประเทศมาเลเซีย  

วันนี้ 30 มี.ค.65 ห้องประชุมใต้สุดสยาม ด่านศุลกากรเบตง อ.เบตง จ.ยะลา   นายภิรมย์  นิลทยา ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้เป็นประธานการประชุมการเตรียมความพร้อมเปิดพื้นที่การท่องเที่ยวในรูปแบบ Test and Go และ One Day Trip  ช่องทางบก  เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการเปิดด่านพรมแดนระหว่าง อ.เบตง จ.ยะลา และ ด่านบูกิตบือราปิต รัฐเคดาห์ ประเทศมาเลเซีย  โดยมีนายรัชฎา จิวาลัย  กงสุลใหญ่ ณ เมืองปีนัง พันจ่าโทอนันต์ บุญสำราญ ปลัดจังหวัดยะลา นายแพทย์วิเศษ สิรินทรโสภณ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง  นางสาวนวพร ชัวชมเกตุ ผอ.ททท. สำนักงานนราธิวาส นายสกุล  เล็งลัคน์กุล นายกเทศมนตรีเมืองเบตง เจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศเบตง เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเบตง เจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเบตง ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเบตง ตำรวจท่องเที่ยว ทหารชุดเฝ้าตรวจชายแดนที่ 4และหัวหน้าส่วนราชการไทย และมาเลเซีย เข้าร่วมประชุมเตรียมความพร้อมเปิดพื้นที่การท่องเที่ยวในรูปแบบ Test and Go และ One Day Trip ในครั้งนี้   

 นายภิรมย์  นิลทยา ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวว่า จังหวัดยะลา วันนี้ เป็นการประชุมส่วนราชการ หน่วยงาน ภาครัฐ เอกชน สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวอำเภอเบตง กงศุลไทย ณ เมืองปีนัง  และเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง ด่านศุลการกร ประเทศมาเลเซีย เพื่อเตรียมเปิดด่านเบตง ต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย และให้พี่น้องชาวไทยได้เดินทางไปประเทศมาเลเซีย เป็นการหารือร่วมพูดคุยในทุกมิติ  โดยทางจังหวัดได้ยื่นเรื่องเสนอไปทาง ศบค.ใหญ่แล้ว เพื่อพิจารณาอนุมัติให้เปิดประเทศ โดยที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดยะลา ได้มีมติเห็นชอบในการดำเนินการเปิดรับนักท่องเที่ยวในรูปแบบใน 2 รูปแบบ คือ Test and Go และ  One day tip 

 การท่องเที่ยวในรูปแบบ Test and Go นักท่องเที่ยวจะเดินทางเข้ามาเป็นกรุ๊ปทัวร์ ค้างคืนได้ ห้ามนำรถเข้ามา และต้องทำการตรวจ RT-PCR ทุกราย เข้าพักที่โรงแรมที่ได้ผ่านการประเมินมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยสำหรับกิจการด้านการท่องเที่ยว SHA และ Thai stop covid plus หากพบการติดเชื้อให้ทำการกักตัว และทำการรักษา ตามระบบ  ส่วนการท่องเที่ยวในรูปแบบที่ 2 คือ One day tip เที่ยววันเดียวกลับ  นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาซื้อของ เข้ามารับประทานอาหาร และต้องทำการตรวจ ATK ทุกราย และจะมีช่วงเวลาในการเดินทาง ตั้งแต่เวลา 08.30 – 20.00 น. หากพบเชื้อไม่อนุญาติให้เดินทางเข้าประเทศ และสามารถนำรถเข้ามาได้ 

 นอกจากนี้ ในที่ประชุม ได้มีการกำชับเรื่องการจัดระบบการท่องเที่ยว กับทางสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวอำเภอเบตง ในเรื่องของการให้บริการ ทั้งราคาที่พัก ร้านอาหาร และการแจ้งราคาค่าโดยสารรถยนต์ รถสาธารณะ ทุกชนิด รวมทั้งเรื่องของการเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล และเรื่องของยา เวชภัณฑ์ จะไม่มีการเอาเปรียบนักท่องเที่ยว ซึ่งขณะนี้ รอการพิจารณาจาก ศบค.ใหญ่ โดยทางจังหวัดพร้อมดำเนินการเปิดด่านชายแดน ซึ่งขณะนี้ทุกฝ่ายมีความพร้อมอย่างเต็มที่ เพื่อรองรับการท่องเที่ยว

สัมภาษณ์..นายภิรมย์  นิลทยา ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา

ข่าว..เจษฎา สิริโยทัย อ.เบตง จ.ยะลา  โทร.064-126-5593 – 080-036-2786

ตาทันนิวส์ออนไลน์ TT.TV.Online

แรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติในพื้นที่เบตง 304 รายแห่ต่อใบอนุญาตทำงานก่อนหมดอายุ 31 มีค นี้

ยะลา – แรงงานต่างด้าวในพื้นทิ่อำเภอเบตง จังหวัดยะลาจำนวน 304 ราย แห่ต่อใบอนุญาตทำงานก่อนหมดอายุ 31 มีนาคม 2565 รีบยื่นต่ออายุใบอนุญาตทำงานก่อนใบอนุญาตฯ หมดอายุ

เมื่อวันที่ 30 มี.ค.65 ที่อาคารศูนย์ราชการด่านชายแดนเบตง อ.เบตง จ.ยะลา วันนี้มีแรงงานต่างด้าว กัมพูชา ลาว เมียนมา ที่ใบอนุญาตทำงานจะหมดอายุในวันที่ 31 มีนาคม 2565 โดยในพื้นที่อำเภอเบตง มีแรงงานต่างด้างจำนวน 304 รายส่วนใหญ่มาประกอบอาชีพก่อสร้าง และเกษตรกร  ต่างเดินทางเพื่อมายื่นขอต่ออายุใบอนุญาตทำงาน ณ สำนักงานจัดหางานเบตง โดยเมื่อพ้นกำหนด จะไม่สามารถทำงานและอยู่ในไทยได้อีกต่อไป

นายนภัทร ทิพาพงศ์  นักวิชาการชำนาญการ ด่านตรวจคนหางานเบตง   เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2564 กำหนดให้แรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ (กัมพูชา ลาว เมียนมา) กลุ่มมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2562 และ 4 สิงหาคม 2563 ที่ประสงค์จะทำงานอยู่ในประเทศไทยต่อไป ยื่นขอต่ออายุใบอนุญาตทำงานก่อนใบอนุญาตฯ สิ้นสุด ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2565 ซึ่งแรงงานต่างด้าวฯ จะสามารถอยู่และทำงานได้ถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 นั้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนายจ้าง/สถานประกอบการ ได้รับบริการที่รวดเร็วและทันตามระยะเวลาที่กำหนด สำนักงานจัดหางานจังหวัดลพบุรี จึงขอเตือนให้นายจ้าง/สถานประกอบการ ที่มีแรงงานต่างด้าวกลุ่มดังกล่าวข้างต้นรีบมาดำเนินการต่ออายุใบอนุญาตฯ ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 มีนาคม 2565 โดยมีขั้นตอน ดังนี้

แรงงานต่างด้าวยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตทำงานพร้อมเอกสารได้แก่– สำเนาหนังสือเดินทาง – สำเนาหลักฐานการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร – รูปถ่าย ขนาด 3 x 4 ซม. จำนวน 2 รูป – สัญญาจ้าง 3 ภาษา – สำเนาหลักฐานแสดงการอนุญาตทำงาน – หนังสือรับรองการจ้างของผู้ซึ่งจะเป็นนายจ้างโดยระบุเหตุผลที่ไม่จ้างบุคคลสัญชาติไทยทำงาน (แบบ บต.46) – หลักฐานการประกันสุขภาพ หรือเป็นผู้ประกันตนตามระบบประกันสังคมของแรงงานต่างด้าว

ส่วนเอกสารนายจ้างประกอบด้วย

– กรณีนายจ้างเป็นบุคคลธรรมดา แนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน

– กรณีนายจ้างเป็นนิติบุคคล แนบสำเนาหนังสือรับรองบริษัท (อายุไม่เกิน 6 เดือน)แรงงานต่างด้าวไปขอตรวจอนุญาตประทับตราวีซ่าให้อยู่ในราชอาณาจักร ณ สำนักงาน ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัด ภายในวันที่ 1 สิงหาคม 2565จัดทำบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย ณ ศูนย์ทะเบียนภาค 1 สาขาจังหวัดลพบุรีโดยมีค่าใช้จ่ายจำนวนทั้งสิ้น 1,000 บาท (ค่ายื่นคำขอ 100 บาท และค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทำงาน 900 บาท)

นายนภัทร  กล่าวย้ำเตือนว่า ขณะนี้ใกล้ระยะเวลาการขอต่ออายุใบอนุญาตทำงานจะหมดอายุแล้ว จึงขอให้เร่งมาดำเนินการให้แล้วเสร็จ หากพ้นกำหนดแรงงานต่างด้าวฯ จะไม่สามารถทำงานและอยู่ในไทยได้อีกต่อไป ติดต่อสอบถามได้ที่สำนักงานจัดหางานเบตง  สายด่วน 1506  

ท้ายคลิปมีเสียงสัมภาษณ์...นายนภัทร ทิพาพงศ์  นักวิชาการชำนาญการ ด่านตรวจคนหางานเบตง   

ข่าว..เจษฎา สิริโยทัย อ.เบตง จ.ยะลา  โทร.064-126-5593 – 080-036-2786