การติดสมาร์ทโฟนทำให้เด็กจำนวนมากขึ้นสู่ศูนย์สุขภาพจิต
ไม่ว่าเราจะชอบหรือไม่ก็ตาม สมาร์ทโฟนได้กลายเป็นที่แพร่หลายในชีวิตประจำวันของเรา และเช่นเดียวกับอุปกรณ์อื่นๆ ก็มีข้อดีและข้อเสียที่ผู้ใหญ่สามารถควบคุมได้มากขึ้น แต่เมื่อพูดถึงเด็ก สิ่งที่แตกต่างและต้องมีผู้ปกครองมากขึ้น การมีส่วนร่วม
พการใช้สมาร์ทโฟนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากเกินไปในมองโกเลียทำให้เด็กหลายคนติด ซึ่งส่งผลต่อพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ของเด็ก ความต้องการการรักษาพยาบาลของเด็กเพิ่มขึ้น และทำให้ปฏิสัมพันธ์ในครอบครัวและสังคมลดลง
B.Bayarmaa รองผู้อำนวยการศูนย์สุขภาพจิตแห่งชาติกล่าวว่าศูนย์มีจำนวนผู้เข้าชมเพิ่มขึ้นอย่างมากในปีนี้ โดยมีเด็กประมาณ 90-100 คนมาเยี่ยมศูนย์สุขภาพจิตแห่งชาติต่อปี เพิ่มขึ้นจาก 3 คน ถึงเด็ก 4 คนในปี 2543 จากข้อมูลของ B.Bayarmaa เหตุผลหลักที่ทำให้เด็กๆ ชอบท่องอินเทอร์เน็ตและแอพพลิเคชั่น และการเสพติดเทคโนโลยีก็คือการเปลี่ยนมาสู่การศึกษาออนไลน์และความจำเป็นของเด็กๆ ในการใช้โทรศัพท์
ในขณะที่คนคลั่งไคล้บางคนพบว่าชีวิตที่ยุ่งวุ่นวายกำลังพรากจากลูกๆ ไป ซึ่งผลักดันให้เด็กๆ ใช้สมาร์ทโฟนบ่อยขึ้นเนื่องจากขาดการดูแล ซึ่งอาจทำให้เกิดการเสพติดได้ "เรามีลูกสองคน และเมื่อฉันกับสามีไปทำงานเราฝากไว้กับพ่อแม่ใช้โทรศัพท์เป็นประจำเวลาที่พวกเขาอยู่ที่นั่นหรือที่บ้านเมื่อใดก็ตามที่เราไม่ปล่อยให้พวกเขาดูโทรศัพท์พวกเขาจะโกรธและอารมณ์ไม่มั่นคงสายตาก็แย่ลงเพราะพวกเขาดูอยู่ตลอดเวลา โทรศัพท์." พลเมืองคนหนึ่ง ส.จุฬาลักษณ์เม็ก กล่าวว่า
อีกด้านหนึ่ง บางครอบครัวพบว่าแม้จะมีข้อดีของสมาร์ทโฟนในการแนะนำบุตรหลานของตนให้รู้จักภาษาและวัฒนธรรมใหม่ แต่ก็ส่งผลกระทบในทางลบซึ่งเกิดขึ้นจากการขาดความเข้าใจในภาษาแม่และอาจเกิดปัญหาในการพูดกับเด็กบางคน พลเมืองชาวมองโกเลียคนหนึ่งกล่าวว่า J.Munkhtsetseg กล่าวว่า “เมื่อเด็กๆ พยายามหาการ์ตูนดูด้วยตนเอง พวกเขามักจะดูเป็นภาษาต่างประเทศ เช่น เด็กอายุ 4 ขวบรู้อักษรภาษาอังกฤษ บางครั้งถึงชื่อสัตว์ ก็มีข้อดีในการเรียนรู้ภาษา แต่ในทางกลับกัน อาจมีปัญหาเรื่องการพูดมาก ถึงแม้คุณจะทำได้ พูดภาษาแม่ไม่เก่ง ฉันคิดว่าคนหนุ่มสาวกำลังทำให้ลูก ๆ ติดหน้าจอโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้วยการไปทำงาน ลูกของฉันก็ติดหน้าจอเหมือนกันเพราะเราไม่สามารถใช้เวลากับเขาได้มากพอ”
ที่มา A24 News Agency
https://youtu.be/fUL4EVTL7KY