หนังสือพิมตาทันนิวส์

23 กรกฎาคม 2564

กห. เร่งระดมทรัพยากรเสริมจัดตั้ง รพ.สนามเพิ่มในหน่วยทหาร วอนร่วมรับผิดชอบลดภาระแพทย์พยาบาล

 พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษก กห. เปิดเผยถึง สถานภาพ รพ.สนาม ที่ กห. โดยทุกเหล่าทัพสนับสนุนจัดตั้งขึ้นปัจจุบัน ได้ใช้อาคารสถานที่ในหน่วยทหาร ที่มีที่ตั้งกระจายอยู่ใน กทม.และปริมณฑล รวมทั้งอีก 24 จว.ทั่วประเทศ จำนวน 34 แห่ง รองรับผู้ป่วยได้ 6,135 เตียง ซึ่งกองทัพได้จัดกำลังพล บุคลากรทางการแพทย์ทหาร ทำงานร่วมกับ สธ.และ กทม. ดูแลประชาชนในพื้นที่ชุมชนต่างๆที่มีการแพร่ระบาด เพื่อนำเข้าสู่ระบบการรักษาอย่างต่อเนื่องมา ตั้งแต่ เม.ย.63 


 นอกจากนั้น กองทัพ ยังได้จัดกำลังทหาร บุคลากรทางการแพทย์ทหาร รวมทั้งเตียง เครื่องนอน และสิ่งอุปกรณ์ต่างๆ เข้าไปเสริมจัดตั้ง รพ.สนามในพื้นที่ต่างๆ เช่น รพ.สนามบุษราคัม รพ.สนามบางขุนเทียน รพ.สนามวัฒนาแฟคตอรี่ สมุทรสาคร และ รพ.สนามอื่นๆ อีก 5 แห่ง 
 อย่างไรก็ตาม ในวิกฤตของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคที่ยังรุนแรง  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นรม.และ รมว.กห. ได้สั่งการให้ทุกเหล่าทัพ ระดมทรัพยากรขยายขีดความสามารถ รพ.สนามที่มีอยู่เดิมและจัดตั้ง รพ.สนามในหน่วยทหารเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับผู้ป่วยสีเขียวที่มีเพิ่มขึ้นในพื้นที่ต่างๆอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะ กทม.และปริมณฑล  


 ซึ่งปัจจุบันทุกเหล่าทัพ อยู่ระหว่างเตรียมพื้นที่และระดมบุคลากรทางการแพทย์แถว 2 และอาสาสมัครเข้ามาช่วย โดยประสานการทำงานร่วมกับสาธารณสุขในพื้นที่อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้มีความจำเป็นต้อง เตรียมพื้นที่ให้เหมาะสมแยกจากทหารและชุมชนในหน่วย เพื่อให้การแยกผู้ป่วยควบคุมโรคออกจากชุมชนสามารถจำกัดได้ใน รพ.สนามของหน่วยทหาร พร้อมกันนี้ ได้เตรียมการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่เสนารักษ์ประจำหน่วยทหาร เข้าสนับสนุน กทม.และ จว.พื้นที่สีแดงเข้ม ดูแลสถานที่แยกรักษาตัวชุมชน ( Home Isolation )

 โฆษก กห.กล่าวยืนยัน ถึงการทำหน้าที่ของกำลังทหารทุกนายในกองทัพว่า ยังสนับสนุนและทำงานร่วมกับ สธ.และหน่วยงานอื่นๆต่อสู้กับโรคระบาดรุนแรงโควิท-19 ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นมา โดยถือเป็นภัยคุกคามรูปแบบใหม่ที่มีผลกระทบร้ายแรงกับประชาชนในทุกมิติเป็นวงกว้าง และเป็นเวลาที่เราทุกคนต้องการความร่วมมือร่วมใจเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างสูงสุดจากทุกฝ่าย ช่วยกันดูแลกันและกัน ไม่สร้างปัญหาให้สถานการณ์เลวร้ายลง  รวมทั้งต้องมีความรับผิดชอบตนเองและสังคมมากขึ้น เพื่อหยุดและ ควบคุมวิกฤตสถานการณ์ครั้งนี้ให้ผ่านไปด้วยกัน
รายงานข่าว.