หนังสือพิมตาทันนิวส์

12 กรกฎาคม 2564

หนังสือพิมพ์ตาทันนิวส์ออนไลน์

โฆษก บช.น เผย! ตั้งด่านจุดตรวจเข้มในห้วงเวลาเคอร์ฟิวและผลการปฏิบัติการรักษาความสงบเหตุการณ์การชุมนุมเมื่อวันเสาร์ที่ 10 ก.ค. 64 ณ ลานเอนกประสงค์ บช.น.
วันอาทิตย์ ที่ 11 ก.ค. 64 เวลา 10.30 น. พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น./โฆษก บช.น. ได้ให้สัมภาษณ์เรื่องการตั้งด่านจุดตรวจเข้มในห้วงเวลาเคอร์ฟิวและผลการปฏิบัติการรักษาความสงบในเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมือง เมื่อวันเสาร์ที่ 10 ก.ค. 64 ณ ลานเอนกประสงค์ บช.น.
วันอาทิตย์ที่ 11 ก.ค. 64 เวลา 10.30 น.  พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น./โฆษก บช.น. ได้ให้สัมภาษณ์เรื่องการตั้งด่านจุดตรวจเข้มในห้วงเวลาเคอร์ฟิว ตามที่ได้มีประกาศข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฉบับที่ 27 ลง 10 กรกฎาคม2564 นั้น ได้มุ่งเน้นการห้ามออกนอกเคหะสถานโดยไม่จำเป็น ตั้งแต่ 21.00 น. ถึง 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น ,หลีกเลี่ยงการเดินทางข้ามจังหวัด ,ห้ามผู้ใดออกมารวมกลุ่มกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป และมาตรการอื่นๆที่เกี่ยวข้องตามข้อกำหนดฯ กองบัญชาการตำรวจนครบาล มีมาตรการปฏิบัติตามประกาศข้อกำหนดฯ ได้สั่งการให้ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด 88 จุด ทั่วกรุงเทพมหานคร
ดังนี้

1.ตั้งจุดตรวจ ทุก สน. รวม 88 จุดตรวจ ในช่วงเวลา 21.00 น. ถึง 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น กระจายทั่วพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยแบ่งเป็น 3 ผลัด ใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 8 นายต่อ 1 ผลัด ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร และฝ่ายปกครองในพื้นที่นั้นๆ มีนายตำรวจระดับสารวัตรเป็นหัวหน้าจุดตรวจ ซึ่งจะเริ่มตั้งในวันที่ 10 กรกฎาคม 2564 เวลา 21.00 น. เป็นต้นไปจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

2.จัดตั้งชุดเคลื่อนที่เร็ว เพิ่มความเข้มในการตรวจตรา ห้วงเวลาที่ห้ามออกนอกเคหสถาน เวลา 21.00 น. ถึง 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น โดยเน้นการตรวจตราจับกุมผู้ที่ฝ่าฝืนออกมาในเวลาดังกล่าว ส่วนการเปิดให้บริการของห้างร้าน ซุปเปอร์มาเก็ต สวนสาธารณะ หรือสถานที่ต่างๆ ให้เป็นไปตามข้อกำหนด คือ เปิดได้ถึง 20.00 น. ยกเว้นขนส่งสาธารณะที่เปิดได้ถึง 21.00 น.

กองบัญชาการตำรวจนครบาลจึงประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนปฏิบัติตามนโยบายมาตรการควบคุมโรคตามข้อกำหนดฯ อย่างเคร่งครัด หากผู้ใดฝ่าฝืนจะมีบทลงโทษตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และพ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 มีโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท ทั้งนี้จะดำเนินการบังคับใช้กฎหมายตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป
สนับสนุนโดย
รายงานข่าว