🇹🇭พรรคประชาไทยจัดประชุมใหญ่มั่นใจปักธง ส.ส.ขอนแก่น
พรรคประชาไทย จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี ครั้งที่ 1/2564 และ ประกาศพร้อม สู้ศึก เลือกตั้งสมัยหน้า ทั้ง 400 เขต ทั่วประเทศ ชูธงคนสูงวัย หนุนคนรุ่นใหม่ และลดความขัดแย้ง มั่นใจนโยบายเข้าถึงคนรากหญ้า สามารถปักธง ส.ส.ขอนแก่น ได้อย่างน้อย 4-5 เขตเลือกตั้ง
ที่โรงแรมประตูน้ำ จังหวัดขอนแก่น พรรคประชาไทย ได้จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี ครั้งที่ 1/2564 เพื่อเป็นไปตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 ตามมาตรา 38 และ 39 โดยมี ดร.บุญยงค์ จันทร์แสง หัวหน้าพรรคประชาไทย พร้อมกรรมการบริหารพรรค สมาชิก กว่า 250 คนเข้าร่วมประชุม ตามที่คณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนด โดยการประชุมครั้งนี้ มีการเลือกตั้ง คณะกรรมการบริหารพรรค เพิ่มเติม เพื่อการทำงานให้กับ ประเทศชาติ,ประชาชน มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ดร.บุญยงค์ จันทร์แสง หัวหน้าพรรคประชาไทย กล่าวว่า วันนี้พรรคประชาไทยมาจัดประชุมใหญ่ ที่จังหวัดขอนแก่น ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากประชาชนในภาคอีสานทุกจังหวัด ทำให้พรรคประชาไทย มีกำลังใจที่จะสู้ศึกเลือกตั้งในครั้งหน้าอย่างเต็มที่ และมั่นใจว่าในการเลือกตั้งครั้งต่อไป จะเป็นกติกาใหม่ 400 เขตเลือกตั้ง พรรคประชาไทย จะสามารถที่จะปักธง สส.ในภาคอีสานได้อย่างแน่นอน
“พรรคประชาไทยเน้นย้ำว่าต้องการเสียงจากคนภาคอีสานซึ่งเป็นคนรากหญ้า เราจะเข้าถึงนโยบายถึงรากหญ้าของพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ เช่น นโยบายที่เราจะนำสู่ประชาชนชาวรากหญ้าทั่วทุกภูมิภาค ไม่เฉพาะในภาคอีสานเท่านั้น แต่ทุกจังหวัด เช่น นโยบายค่าตอบแทนของ อสม. พรรคจะให้ค่าตอบแทน อสม. ซึ่งเป็นด่านหน้าในการป้องกันโควิด-19 ยุควิกฤติโควิดที่ผ่านมา เราจะเพิ่มค่าตอบแทนให้จำนวน 3,000 บาท และชูธงคนสูงวัย หนุนคนรุ่นใหม่ ลดความขัดแย้ง ชูธงคนสูงวัย หมายถึง เพิ่มเบี้ยยังชีพให้กับคนสูงวัยที่ได้รับเบี้ยยังชีพในทุกวันนี้ คือ 600 700 และ 800 ตามลำดับขั้นบันไดอายุ แต่พรรคประชาไทย จะให้ทีเดียวจำนวนเบื้องต้น 3,000 บาท พรรคประชาไทยเข้าใจบริบทของผู้หลักผู้ใหญ่ คนแก่คนเฒ่า เราก็จะตั้งงบประมาณส่วนหนึ่งให้กับผู้สูงวัยในเดือนเมษายน เพื่อรดน้ำดำหัวในวันผู้สูงวัยเพิ่มอีกรายละ 1,000 บาท ซึ่งในเดือนนั้นผู้สูงวัยจะมีรายรับ 4,000 บาท นี่คือการชูธงผู้สูงวัย”
สำหรับการหนุนคนรุ่นใหม่ พรรคประชาไทย จะต่อยอดจากนักเรียน นักศึกษา ที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญาตรี ปริญาโท และปริญาเอก ซึ่งขณะนี้เกิดภาวะวิกฤติการว่างงานจากสถานการณ์โควิด-19 เพื่อให้บุคคลเหล่านี้ เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น โดยจัดตั้งโครงการกองทุนเถ้าแก่น้อย คือ นิสิต นักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาปริญาตรี ปริญาโท และปริญาเอกที่ตกงานให้เข้าถึงกองทุนนี้ โดยนำใบปริญญาบัตร มาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน ในการกู้เงินกองทุนเถ้าแก่น้อย เพื่อนำไปสร้างงานสร้างอาชีพ ไม่ว่าจะเป็น E-commerce หรือการซื้อขายออนไลน์ หรือแพลตฟอร์มต่าง ๆ ซึ่งจะสร้างให้คนรุ่นใหม่มีรายได้ และประเทศก็จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ดีขึ้น
และนโยบายที่สำคัญอีกอย่าง คือ ลดปัญหาความขัดแย้ง เป็นที่ทราบกันดีว่าบ้านเมืองเกิดความขัดแย้งแตกแยก พรรคประชาไทยเป็นพรรคแนวกลาง เราจะไม่ซ้ายไม่ขวา เราจะเข้ามาแก้วิกฤติเรื่องของความขัดแย้ง เราจะนำเรื่องของการปรองดองสมานฉันท์ให้กับพี่น้องประชาชน
หัวหน้าพรรคประชาไทย กล่าวอีกว่า เนื่องจากกติกาเลือกตั้งใหม่ ที่สภาผู้แทนราษฎรได้แก้ไขรัฐธรรมนูญ ประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาเรียบร้อยแล้ว กำลังจะมีการแก้ไขในเรื่องกฎหมายลูกของการนับคะแนนบัญชีรายชื่อ และจำนวน สส. สภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขต และแบบบัญชีรายชื่อ ในภาคอีสานมีการคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 133 เขต ใน 20 จังหวัด พรรคประชาไทย พร้อมส่งผู้สมัครที่มีคุณภาพและศักยภาพ เป็นทางเลือกทางรอดของประเทศให้กับพี่น้องประชาชนครบทั้งประเทศ รวมทั้งภาคอีสาน 133 เขต เป็น 400 เขตทั้งประเทศ
“พรรคประชาไทยจะมีทีเด็ดผู้สมัคร อีกไม่นานเราจะมีการเปิดตัวผู้สมัคร สส.ที่ มีการเซอร์ไพรส์เปิดตัวผู้สมัครซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี และส่วนใหญ่หลายพรรคการเมืองที่กำลังติดต่อเข้ามาอยู่ที่พรรคประชาไทย เนื่องจากกติกาใหม่ก็จะมารวมกันให้พรรคมีความเข้มแข็ง มีพลังมากยิ่งขึ้น” เราเล็งเห็นแล้วว่าขอนแก่นมีพรรคการเมืองใหญ่ ๆ ซึ่งจะครองพื้นที่อยู่จำนวน 2-3 พรรค ซึ่งพรรคประชาไทยคิดว่าขอนแก่นเป็นศูนย์กลางของภาคอีสาน เรามั่นใจว่าพี่น้องประชาชนไม่เฉพาะจังหวัดขอนแก่น แต่ทั่วประเทศต้องการให้บ้านเมืองเปลี่ยนแปลง ต้องการให้รัฐบาลมีการเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน เราจึงมั่นใจว่าผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคประชาไทย สามารถที่จะปักธงเพราะพี่น้องต้องการการเปลี่ยนแปลงสิ่งใหม่ ๆ เข้ามา มั่นใจว่าขอนแก่นมี ส.ส. อย่างน้อย 4-5 เขต
ข่าว กัมพล ดวงชิน
ภาพ ภูมินทร์ พินิจ – ไอลดา เจริญถิ่น – ทิยาพร แก้ววงค์
