อุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรม S-Curve ซึ่ง ครม. มีมติให้ความเห็นชอบมาตรการพัฒนาอุตสาหกรรมดังกล่าวตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 โดยมีกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนมาตรการต่าง ๆ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0
ประกอบด้วยมาตรการที่สำคัญ ได้แก่ การกระตุ้นให้โรงงานต่าง ๆ ใช้หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติในการยกระดับประสิทธิภาพการผลิต และการสร้างอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติในประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ออกแบบและติดตั้งระบบ หรือ System Integrator (SI) ผ่านมาตรการส่งเสริมการลงทุนของ BOI และมาตรการภาษีของกรมสรรพากรและกรมศุลกากร นอกจากนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมได้จัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ (Center of Robotic Excellence: CoRE) ขึ้น ในรูปแบบของคณะกรรมการเครือข่ายความร่วมมือของหน่วยงานชั้นนำด้านหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติของประเทศ เพื่อยกระดับผู้ประกอบการให้สามารถผลิตหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติที่มีความซับซ้อนมากขึ้น รองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมผลิตหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ สู้วิกฤตช่วงสถานการณ์โควิด-19 สู่โอกาสการเติบโตในอนาคตครับ
โดยที่ผ่านมา กระทรวงอุตสาหกรรม ได้ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบัน การพัฒนาอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติของประเทศไทย อยู่ในเป้าหมายระยะกลาง จากข้อมูลในปี พ.ศ. 2563 ประเทศไทยมีการลงทุนหุ่นยนต์ฯ จำนวน 116,676 ล้านบาท มีระดับการใช้หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติในโรงงานอุตสาหกรรมประมาณร้อยละ 25 รวมถึงมีการผลิตหุ่นยนต์ภายในประเทศเพื่อลดการนำเข้าได้ร้อยละ 12 ถึงแม้ว่าในช่วงนี้ประเทศไทยและทั่วโลก กำลังเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยิ่งทำให้ประเทศไทยต้องเตรียมความพร้อมด้านหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ ด้วยการยกระดับการผลิตและเปลี่ยนวิกฤตสู่โอกาสเพื่อรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมที่จะเติบโตในอนาคต ซึ่งในขณะนี้ ประเทศไทยถือว่ามีความพร้อมทางด้านมาตรการรองรับเป็นอย่างมาก โดยหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคส่วนต่าง ๆ ได้ออกมาตรการกระตุ้นอุปสงค์และสร้างอุปทานที่สอดคล้องกัน เช่น
- สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นเวลา 3 ปี
- กรมสรรพากร ออกประกาศให้สามารถนำเงินลงทุนเครื่องจักรและระบบอัตโนมัติมาหักค่าใช้จ่ายได้ 5 รอบบัญชี
- กระทรวงการคลัง ยกร่างประกาศการยกเว้นอากรนำเข้าชิ้นส่วน อุปกรณ์หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ผลิตหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติในประเทศ
- กระทรวงอุตสาหกรรม ได้ดำเนินการขึ้นทะเบียน System Integrator (SI) จำนวน 74 ราย ฝึกอบรมยกระดับ SI รวมจำนวน 1,395 คน บ่มเพาะ SI Startup จำนวน 70 กิจการ และพัฒนาต้นแบบหุ่นยนต์ฯ รวม 185 ต้นแบบ
- สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกที่ร่วมมือกับเครือข่าย ได้รับการสนับสนุนเครื่องจักรจากบริษัทชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อเป็นศูนย์กลางการพัฒนากำลังคน นวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ
- กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ได้เสนอแผนดำเนินโครงการจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมการผลิตยั่งยืนเพื่อให้บริการทดสอบจัดทำมาตรฐานสนับสนุนอุตสาหกรรม
- กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ และสถาบันไทย-เยอรมัน เตรียมความพร้อมและยกระดับทักษะแรงงานเพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการมากที่สุด เป็นต้นครับ
ปัจจุบัน กระทรวงอุตสาหกรรม ได้พัฒนาระบบสารสนเทศในการบริหารจัดการของคณะกรรมการเครือข่ายศูนย์ความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ (Center of Robotic Excellence: CoRE) ซึ่งได้ดำเนินการจัดทำ Platform เพื่อการบริหารจัดการเครือข่าย CoRE โดยจะยกระดับให้ครอบคลุมทั้งการบริหารจัดการ Supply Chain ของอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติเชื่อมโยงกับ Platform ของหน่วยงานของรัฐและภาคเอกชนในลักษณะ Collaborative Platform เพื่อส่งเสริมให้เกิดการใช้หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติที่เหมาะสมกับความต้องการของภาคธุรกิจ ทั้งนี้ CoRE จะกำหนดมาตรฐานหลักสูตรการฝึกอบรม การทดสอบและวัดระดับของ SI ร่วมกับสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมยังมีแผนที่จะเพิ่มจำนวน SI ในพื้นที่ต่างจังหวัด เพื่อรองรับการขยายตัวและตอบสนองความต้องการระบบ Simplify Automation ทั่วประเทศ โดยยกระดับโรงกลึง อู่ซ่อมรถ ร้านซ่อมเครื่องจักรในพื้นที่ ซึ่งมีลักษณะเป็น Small Shop ให้มีขีดความสามารถในการรับงานที่เป็น Automation มากขึ้น รวมทั้งการสร้างความร่วมมือกับสถาบันการเงิน ธนาคารเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีการใช้หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ ตลอดจนประเมินการปล่อยสินเชื่อเงินกู้เพื่อการลงทุนในหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติให้กับผู้ประกอบการได้ต่อไปครับ
กระทรวงอุตสาหกรรม
รายงานข่าว